หน้าแรก “สมชัย” แนะว่าที่ กกต.ใหม่-เตือนระวังล็อบบี้เก้าอี้ประธาน ด้าน “พรเพชร” สวนกลับ อย่ามโน

“สมชัย” แนะว่าที่ กกต.ใหม่-เตือนระวังล็อบบี้เก้าอี้ประธาน ด้าน “พรเพชร” สวนกลับ อย่ามโน

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า นับจากวันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม เป็นวันที่นัดหมาย 5 กกต.ใหม่มาประชุมร่วมกันเพื่อเลือกหนึ่งคนดำรงตำแหน่งประธาน กกต.เพื่อทูลเกล้าฯเพื่อลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯเป็น กกต.ชุดที่ 5 น่าจะเป็น 15 วันที่ผู้เป็นว่าที่ กกต. จะพบเจอกับหลายอย่างที่ในชีวิตไม่เคยประสบ

ประการแรก การลาออกจากงานทุกประเภทภายใน 15 วันหลังจากได้รับคัดเลือก สำหรับคนที่มีงานไม่กี่อย่าง หรือ ออกจากงานราชการแล้วคงไม่เป็นปัญหามาก แต่คนที่มีธุรกิจ เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทเอกชน เป็นที่ปรึกษาของใครต่อใคร คงต้องนึกทบทวนให้ดี และลาออกให้หมด ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาในภายหลัง

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ประการที่สอง ระหว่างที่ตนเองลาออก คงต้องลุ้น หรือประสานงานให้ดีว่าลาออกครบทั้ง 5 คน เพราะหากมีคนใดคนหนึ่งลาออกไม่หมด หรือไม่ลาออก จะขาดคุณสมบัติการเป็น กกต. ไม่สามารถจัดประชุมเพื่อเลือกประธาน กกต.ได้ เพื่อนอีก 4 คนที่เหลือ ลาออกจากงานแล้ว คงต้องว่างงานไปสักระยะ ประมาณ 5-6 เดือน จนกว่าจะสรรหาคนใหม่มาได้ครบ ประการที่สาม โทรศัพท์จากใครต่อใครที่ท่านไม่สนิท ไม่คุ้นเคยจะมาถึงท่านตลอดเวลา แสดงความยินดีบ้าง ฝากฝังตนเองบ้าง ขอนัดหมายพบปะเพื่อแนะนำตนเองบ้าง อย่าได้เคลิบเคลิ้มหลงใหลรับปาก เป็นคนปกติแบบเดิมดีที่สุด

นายสมชัยกล่าวต่ออีกว่า ประการที่สี่ การล็อบบี้เพื่อตำแหน่งประธาน กกต.จะเกิดขึ้น จากใครต่อใครที่ท่านรู้จักและไม่รู้จัก การขอนัดหมายพบปะกันเพื่อขอคะแนนเสียงจะเกิดขึ้น ให้ระวังคนจากพรรคการเมือง คนจากรัฐบาลปัจจุบัน หรือ คนจาก สนช.ที่จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางจัดเลี้ยงนัดหมายเพื่อล็อบบี้ให้คะแนนแก่คนนั้นคนนี้ ใช้วิจารณญาณของท่านดีที่สุด การรับปากใดๆ จากใครต่อใครล้วนเชื่อไม่ได้ ไม่มีใครเป็นหนี้บุญคุณใคร หรือแม้เคยขออะไรใครก็ต้องลืมให้หมด นึกถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ

นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่าที่กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงคณะกรรมการกกต.ทั้ง 5 คน และตัวเต็งที่จะนั่งเป็นประธานกกต. ว่า หน้าตาดีทุกคน แต่การที่ใครจะขึ้นนั่งเป็นประธานกกต.คงจะต้องรอให้มีการประชุม และให้แต่ละคนแสดงวิสัยทัศน์กันก่อน ให้พูดหรือบอกอะไรตอนนี้คงไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้เห็นหรือว่ายังไม่ได้รู้จักกันเลย คงจะต้องรอฟังวิสัยทัศน์กันก่อน

เมื่อถามว่า มีคนประเมินว่าตัวเก็งที่จะเป็นประธานกกต.ต้องมาจากทางสายศาล นายธวัชชัย กล่าวว่า ก็ว่ากันไป แต่สำหรับตนให้ประเมินอะไรในขนาดนี้คงจะประเมินไม่ได้ และตนคนเดียวก็คงพูดภาพรวมของทั้ง 5 คน ไม่ได้ด้วย

เมื่อถามว่า คิดว่าทั้ง 5 คน จะสามารถทำงานและต่อกรกับฝั่งการเมืองได้หรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ตนคิดว่าทั้ง 5 คน จะสามารถทำงานได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราเพียงแต่ทำงานของเราให้ถูกต้องตามกฏหมาย ทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดอย่างเป็นกลาง เพื่อรับใช้ประชาชน และประเทศชาติ ซึ่งตนก็คิดว่าท่านที่เหลือก็คงคิดแบบเดียวกัน

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เปิดเผยว่า การเลือกประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นเรื่องที่บุคคลที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช.ทั้ง 5 คนจะไปดำเนินการกันเอง ส่วนเรื่องการล็อบบี้นั้นส่วนตัวไม่รู้จะมีใครไปล็อบบี้กันได้ แต่เป็นธรรมชาติของการฟอร์มทีมองค์กรอิสระที่จะมีการออกข่าวว่า ใครเป็นผู้มีความเหมาะสม ความน่าสนใจ ดังนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีข่าวออกมาว่าใครจะมาเป็นประธาน

“อย่าไปคิดว่าการแข่งขันเป็นประธานกกต. จะทำให้เกิดความขัดแย้งกัน เชื่อว่า การเลือกประธานกกต.ไม่น่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะในช่วงการสรรหากกต. ทางคณะกรรมการสรรหากกต.ได้สอบถามผู้สมัครทุกคนเกี่ยวกับเรื่องการทำงานร่วมกันว่า จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ หากมีใครมีอีโก้สูง คะแนนจะลดลงไป รวมทั้งต้องมีความเป็นอิสระ เป็นกลาง มั่นใจว่า เมื่อผ่านขั้นตอนเลือกประธานกกต.แล้ว จะไม่มีการเคลื่อนไหวสร้างความขัดแย้ง เพราะจะทำให้องค์กรขาดความศรัทธา” นายพรเพชร กล่าว