ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70 ปีเศษ อดีตแกนนำ พธม. พร้อมแนวร่วม รวม 21 คน เป็นจำเลยที่ 1-21 ในความผิด 5 ข้อหา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216, 309 และ 310
ตามฟ้องโจทก์เมื่อเดือน ธ.ค.55 บรรยายความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 5 – 7 ต.ค.51จำเลยและกลุ่มพันธมิตร ฯ จำนวนหลายพันคน ร่วมมั่วสุมภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตั้งเวทีปราศรัย และได้ยุยงปลุกปั่นให้กลุ่มพันธมิตร ฯ ทั้งประเทศไปรวมตัวปิดล้อมรัฐสภาไม่ให้ ส.ส.และ ส.ว.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าร่วมประชุมสภา โดยวันที่ 7 ต.ค.51
โดยศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.4924/2555 ซึ่งศาลสอบคำให้การจำเลยแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่จำเลยบางส่วนได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี คนละ 200,000 บาท
โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัว นายสนธิ และแกนนำ พธม. 5 คนที่ถูกคุมขังคดีบุกทำเนียบรัฐบาล มาจากเรือนจำ ส่วนแกนนำ-แนวร่วมที่ได้ประกันตัวก็เดินทางมาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา ขณะที่ผู้ร่วมชุมนุมกว่า 50 คน ก็เดินทางมาให้กำลังใจล้นห้องพิจารณา
ศาลชี้ว่าการชุมนุมดังกล่าวของกลุ่มพันธมิตรเป็นไปโดยสงบตามสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ซึ่งประชาชนในฐานะเจ้าของประชาธิปไตยได้ร่วมตรวจสอบนักการเมืองโดยแกนนำได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงนั้นมาสื่อสารให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งคดีเหล่านั้นมีบทพิสูจน์แล้วจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น คดีซื้อที่ดินรัชดาฯ และศาลรัฐธรรมนูญ
โดยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาระงับการชุมนุมที่เป็นไปอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยที่กลุ่มผู้ชุมนุมคาดหมายและเตรียมตัวได้ทัน ซึ่งเป็นปกติธรรมดาที่เมื่อผู้ชุมนุมอยู่ในสถานการณ์ตรงหน้าที่มีความกดดันและเห็นมีเพื่อนผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บก็จึงได้วิ่งหลบหนีและบางส่วนก็อาจจะตอบโต้ซึ่งเป็นกรณีเฉพาะรายไม่ใช่เกิดจากกรณีที่จำเลยได้ปลุกปั่นหรือยุยง การกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องทั้ง 5 ข้อหา
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ
ขอบคุณภาพจาก VoiceTV21