หน้าแรก news ไม่รับก็ไม่ร่วม รบ.! “ภูมิใจไทย” จับมือสายเขียว ค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา ผุดสติ๊กเกอร์แจกจ่ายประชาชน

ไม่รับก็ไม่ร่วม รบ.! “ภูมิใจไทย” จับมือสายเขียว ค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา ผุดสติ๊กเกอร์แจกจ่ายประชาชน

0
ไม่รับก็ไม่ร่วม รบ.! “ภูมิใจไทย” จับมือสายเขียว ค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา ผุดสติ๊กเกอร์แจกจ่ายประชาชน
Sharing

ที่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ร่วมกันแถลงข่าวในหัวข้อ “รณรงค์คัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา” โดยมีนายบัณฑูร นิยมาภา หรือ “ลุงตู้กัญชาพื้นบ้าน” ร่วมในการแถลงด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในพระราชบัญญัติยาเสพติดที่รัฐออกมา นั้น มีการกำหนดเงื่อนไขในการปลูกกัญชา เป็นการกำหนดมาเพื่อล็อคสเปกให้กับกลุ่มนายทุน ถือว่าเป็นการเอาเปรียบประชาชน ซึ่งเคยเกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจ เบียร์และสุรา เพราะในอดีตที่ผ่านมาประชาชนสามารถต้มเหล้าดื่มกันเองได้ แต่ปัจจุบันไม่ได้แล้ว เพราะทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจะดำเนินคดีในเรื่องการต้มเหล้าเถื่อน

พรรคภูมิใจไทยเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐอย่าทำอะไรที่สร้างผลกระทบกับประชาชน เพราะวันนี้พรรคมองเห็นว่า กัญชาเป็นประโยชน์ในการรักษาโรคมากกว่าจะมองว่าเป็นยาเสพติด ซึ่งอย่าทำร้ายประชาชนด้วยการออกกฎหมายลิดรอนสิทธิ์ประชาชน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ไปปลูกกัญชาถูกกฎหมายต้นแรกให้ดูแล้ว แต่ปลูกเป็นในโรงเรือน ซึ่งเป็นโรงรือนที่ใช้ต้นทุนสูง ประชาชนไม่สามารถกระทำได้ ทางพรรคภูมิใจไทยอยากให้ประชาชนสามารถปลูกได้อย่างเสรี รัฐบาลอย่านำกฎหมายมาใช้ให้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงของประชาชน พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับกฎหมายปัจจุบัน อยากให้มีการแก้ไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ และต่อยอดนำมาทำเป็นเชิงพาณิชย์ในสายพันธุ์กัญชาที่สามารถปลูกเพื่อนำมาสกัดเป็นยาได้

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมี 34 ประเทศในโลกที่ปลดล็อค โดยมี 3 ประเทศที่ปลดล็อคเต็มรูปแบบ คือ แคนาดา เม็กซิโก และอุรุกวัย ทั้งนี้ ประเทศแคนาดา เปิดกว้างมากที่ให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้เสรี มีการต่อยอดนำไปผลิตเป็นยาและสามารถส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ ส่งผลประเทศแคนาดามีรายได้เข้าประเทศมหาศาล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะใช้แคลิฟอร์เนีย โมเดล มาเป็นต้นแบบ โดยให้วิสาหกิจชุมชน เป็นต้นทางที่ให้โอกาสกับประชาชนในการปลูก ซึ่งที่แคลิฟอร์เนียประสบความสำเร็จมาก นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีเหตุร้ายเกิดจากการสูบกัญชา แถมยังส่งผลให้เกิดการบริโภคเหล้าลดลง ถือเป็นการช่วยรัฐทางอ้อม

สำหรับกัญชาในโลกนี้มี 3 สายพันธุ์ คือ อินดิก้า ซาคิวา และรูเดอราริส ซึ่งมีการตัดต่อพันธุกรรม ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์มากขึ้น จนเกิดคำว่าไฮบริด สามาถปลูกกลางแจ้งได้  ซึ่งในสายพันธุ์ซาคิว่า มีต้นใหญ่ไม่ไช่พืชล้มลุก สามารถนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์มากมหาศาลทางการแพทย์

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีตราสัญลักษณ์การส่งออกกัญชาแต่กลับไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์  ซึ่งในต่างประเทศมีการส่งออกกัญชาจำหน่ายแล้ว มีการนำกัญชาไปผลิตทั้ง น้ำอัดลม และเบียร์ ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่ ทั้งนี้ การปลดกัญชาออกจากยาเสพติด รัฐบาลมาถูกทางแล้ว แต่หากให้นายทุนทำก็ไม่ต่างจากเหล้าหรือเบียร์ พรรคอยากให้ประชาชนมาร่วมในปลูกกัญชาเพื่อสร้างรายได้มากกว่า

“พรรคจะเดินหน้าในการคัดค้านการผูกขาดกัญชา ตัดโอกาสในการเข้าถึงกัญชาของประชาชน ซึ่งอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่วมคัดค้านการผูกขาดกัญชาให้กับนายทุน ซึ่งเราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด เราได้จัดทำเรื่องกัญชามีการจัดทำกฎหมายไว้แล้วหลังการเลือกตั้งเราจะนำกฎหมายเข้าสู่สภาแน่นอน”

นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายที่จะนำกฎหมายอื่นๆ เข้าสู่สภาด้วยทั้งกฎหมายแบ่งปันกำไรพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเราจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก  การแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ.ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ เรื่องการปลดล็อค เกี่ยวกับการขับรถแท๊กซี่แกร๊บ และโฮมสเตย์และปลดล็อคประมง การทำนโยบายให้กับ อสม.สามารถดูแลประชาชนได้  การจัดทำนโยบายกรุงเทพสะดวก สามารถทำงานออนไลน์ที่บ้านได้ ลูกหลานสามารถเรียนและส่งงานทางไลน์ได้สามารถแก้ปัญหาจราจรได้ การเดินหน้าในการจัดทำนโยบายการเรียนออนไลน์ ซึ่งกำลังดำเนินการ การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการดึงบุรีรัมย์โมเดลมาใช้เป็นแม่แบบในการพัฒนาพื้นที่ การแก้ไขปัญหาความในภาคใต้ หรือการทำโครงการ SEC และสุดท้ายคือการทำนโยบายกัญชา

เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวในตอนท้ายว่า นโยบายทั้งหมดที่พรรคดำเนินการนั้น ทางพรรคได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้คนมีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยจะนำรายได้กว่า 3 แสนล้าน สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้มาก ซึ่งหากทำไม่ได้ตามที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไว้ พรรคก็พร้อมที่จะลาออกหมดพรรค หรือในการร่วมรัฐบาลนั้น หากแกนนำรัฐบาลไม่รับนโยบายพรรค เราก็ไม่ร่วม เรายอมเป็นฝ่ายค้าน   

 

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค กล่าวว่า ในข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เราพบว่า กฎหมายได้บัญญัติไว้ว่าใครสามารถจะครอบครองกัญชาได้ ซึ่งมีการระบุไว้ 7 กลุ่ม ทั้งหมดที่รัฐกำหนดไม่มีประชาชนทั่วไป ต่างจากที่เราเรียกร้อง ซึ่งแนวคิดของรัฐต้องการที่จะผูกขาดการปลูกกัญชาไว้ที่รัฐ ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ปลูกกัญชาเสรี

ในมาตรา 26/5 ( 7 ) เปิดโอกาสให้คณะกรรมการว่าด้วยกัญชากำหนดหลักเกณฑ์ ซึ่งรัฐกำลังดำเนินการรวบอำนาจนี้ไว้ในมือ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ รัฐรวบอำนาจให้กับนายทุน ซึ่งเป็นผลประโยชน์มหาศาลที่รัฐกำลังเอื้อนายทุน ซึ่งทางพรรคไม่เห็นด้วย เพราะพรรคมองว่าประชาชนควรได้ประโยชน์จากกัญชา แต่กฏหมายไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านหรือแม้แต่วิสาหกิจชุมชน สามารถเข้ามาร่วมในการปลูกกัญชาได้ ซึ่งเป็นการสูญเสียมาก เพราะรัฐไม่มองเห็นหัวประชาชน  จึงเป็นเรื่องที่พรรคยอมไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว แกนนำพรรคได้นำสติกเกอร์ ที่ระบุข้อความว่า  “พรรคภูมิใจไทย คัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา” แจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อนำไปติดที่รถหรือที่บ้าน เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงความจำนงและเห็นด้วยกับแนวทางของพรรค


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่