13 มีนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในงานเสวนา “การขับเคลื่อนเรื่องที่ประชาชน และเอกชนให้ความสนใจ” จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง และการลดความเหลื่อมล้ำว่า
ภารกิจของพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง คือ การทลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน คำว่าทลายทุกข้อจำกัด พรรคภูมิใจไทยได้ตระหนักว่า ประชาชนมีอุปสรรคในการทำมาหากิน เพราะติดข้อจำกัด เอกชนจะสร้างโรงงาน ต้องไปขออนุญาต 7-10 หน่วยงาน อยากลงทุน ต้องติดการอนุมัติจากทางการ สิ่งที่เอกชนประสบเหมือนที่ตนเคยเจอ
เราอยากเอาเงินเข้าประเทศ แต่ระบบราชการไม่ตอบโจทย์ ภาครัฐต้องหนุนการลงทุน ทว่าภาครัฐถือระบบดุลพินิจ กุมอำนาจไว้กับตัวเอง ให้รัฐมนตรีพิจารณา นี่คือต้นเหตุของการคอรัปชั่น เพราะขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน คนที่มีอำนาจต้องการถืออำนาจ เพราะจะได้บอกว่าอันนี้ทำได้ อันนั้นทำไม่ได้ คนเดือนร้อนคือประชาชน กฎหมายแต่ละอย่างหาความแน่นอนไม่ได้
ภูมิใจไทยเสนอให้ใช้ระบบเช็คลิสต์ เราให้เกียรตินักลงทุน ให้ตรวจสอบตัวเอง ภาครัฐมอบเอกสารให้เอกชนไปตรวจสอบตัวเอง ถ้าทำได้ ติ๊กถูก ดำเนินกิจการได้ แต่ถ้าโกหก กฎหมายจะเข้าไปจัดการ พรรคภูมิใจไทย ต้องการทลายข้อจำกัดของกฎหมาย การทำมาหากินต้องสะดวก
เรื่องการแก้ปัญหาทุจริต นายอนุทิน กล่าวว่า การคอรัปชั่น ถ้าไม่มีการกดดัน รับรองว่าไม่มีการแก้ไข เวลาเอกชนเห็นความชอบมาพากลแล้วไปทวงถาม คำตอบคือ ไม่มี ไม่เคยเกิด แต่มันมีการทุจริต เราทราบกันดี
สำหรับพรรคการเมือง หากมีโอกาสทำงานในสภา ต้องเข้าไปดูงบประมาณ จะซื้ออะไร จะใช้อะไร ต้องมีความรู้ ความชำนาญ สามารถกำหนดราคาได้เหมาะสม ตนเสนอให้ยกเลิกการใช้ราคากลางจากดัชนีราคา แต่ให้กำหนดราคากลาง ตามความเป็นจริง ใครเสนอราคาต่ำสุด ต้องรับประกันผลงานด้วย พรรคภูมิใจไทย ขอโอกาสเข้าไปทำงานแล้วจะดูแลเรื่องจัดซื้อจัดจ้างอย่างดี ไม่มีใครถูกเอาเปรียบ และชาติได้ประโยชน์สูงสุด
“ในการประมูลทั้งหลาย ภาครัฐต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม สิ่งที่อยากจะนำเสนอคือประเทศมีงบจำกัด การใช้จ่ายเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้น ภาครัฐต้องจัดลำดับว่าจะทำอะไรก่อนหลัง พรรคจะใช้เงินเพื่อแลกกับสินค้าและการบริการโดยคนไทยเท่านั้น เรียกว่า ไทยแลนด์โอนลี่ ของไทยดี แต่ถูกมองข้าม เอาเงินไปให้ต่างประเทศหมด อย่างมอเตอร์เวย์ ของดี คนไทยทำ ประชาชนนิยมใช้ รัฐบาลสร้างเส้นกรุงเทพ- โคราชเสร็จแล้ว แต่เรากลับไม่มีเส้นกรุงเทพ-พัทยา น่าเสียดาย ทั้งที่ เป็นการหมุนเงินในประเทศ”
ในประเด็นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคเสนอให้ใช้กฎหมายเข้าไปแก้ไข เราจะแบ่งกำไรของนายทุนที่เคยได้มากมาย ไปให้กับส่วนอื่น
การแบ่งปันกำไร ชาวไร่ ชาวนา ทำงานเหนื่อย แต่มีรายได้น้อย เพราะเขาไม่มีส่วนร่วมในโครงสร้างราคา ภาคเกษตรกรต้องมาร่วมกำหนดปริมาณการผลิต และร่วมกำหนดราคา จนได้ราคาที่พึงพอใจ สิ่งที่ตามมาคือ คนไทยที่เคยกระจุกอยู่ในเมือง จะกลับบ้านไปทำการเกษตร สร้างความเจริญให้ท้องถิ่น มันจะเกิดความสมดุลที่แท้จริงยิ่งกว่าในช่วงที่มีนโยบายประกัน จำนำพืชผล ซึ่งคนไหลเข้าสู่ภาคเกษตรมากเกินไปจนเสียความสมดุล
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับการท่องเที่ยว ในทุกจังหวัด ล้วนมีเสน่ห์ นักท่องเที่ยวจำนวนมากอยากสัมผัสวิถีไทย อยากพักกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านไม่สามารถนำเรื่องนี้มาหาเงิน เพราะติดกฎกรอบ เราต้องแก้ไข ให้กฎหมายทันกับความต้องการของประชาชน ประเทศไทย ถ้าประชาชนมีทางทำกินมากเท่าไหร่ ความเหลื่อมล้ำจะลดลงเท่านั้น
รัฐไทย มักไปบอกว่าทำแบบนี้ ผิดกฎหมาย แต่มันผิดกฎหมายที่เก่าตกยุค แล้วแทนที่จะแก้กฎกรอบ ก็ตัดปัญหาด้วยการบอกว่าผิด ปิดทางหาเงินอย่างน่าเสียดาย การแก้ความเหลื่อมล้ำ พรรคภูมิใจไทย ย้ำว่า ต้องใช้กฎหมายเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ให้เกิดความเป็นธรรม หากภูมิใจไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล เราจะสนับสนุนการกินและใช้ของไทย หรือไทยแลนด์โอนลี่
“มันถึงเวลาที่เราต้องปลดล็อกความเชื่อแบบเดิม กัญชา คือโอกาสของคนไทย เราอย่าปิดโอกาสประชาชนในการหารายได้จากพืชชนิดนี้ กัญชาจะต้องเป็นพืชที่ประชาชนปลูกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดจากรัฐ นี่คือพืชเศรษฐกิจของคนไทย”
ในประเด็นการเมือง นายอนุทิน กล่าวหลังงานเสวนาว่า พรรคภูมิใจไทยชัดเจน เราเคารพกติการัฐธรรมนูญ และเราประกาศแล้วว่า นายกรัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่ง ขอให้ใช้กติกาประชาธิปไตยหาก ส.ส. เลือกได้เกินกึ่งหนึ่งแล้ว ฝ่าย ส.ว.ต้องทำตามมติของประชาชน
“อย่าเอาตัวเลขมาคำนวณแล้วบิดพริ้วการตัดสินใจของ ส.ส. นั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้าท่านเป็นนายกฯโดยเสียงข้างน้อยของ ส.ส.จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าลำบาก เนื่องจากพอมาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส มีน้อยกว่า ท่านปฏิบัติงานไม่ได้ เราไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังวน ไม่รู้เป็นความต้องการของใครหรือไม่ ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย”
แต่ตามหลักไม่ควรไปขัดขวางเจตนารมณ์ของผู้แทนประชาชน ส่วนกระแสความนิยมของพรรคอนาคตใหม่ พรรคไม่กังวลใครมีนโยบายดีก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย