เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่จังหวัดเชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย ศูนย์กลางการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ตามแนวทางพลังประชารัฐ เพื่อติดตามการดำเนินการดูแลผู้สูงอายุของจังหวัดเชียงราย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้สร้างอนาคตสร้างโอกาส รัฐบาลนี้ทำมาหลายอย่าง ดังนั้น ขอให้หาให้เจอว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง อยากจะได้มากขึ้น ก็ต้องช่วยกันพัฒนาตัวเอง รัฐบาลอยากให้หมด แต่ถ้าให้ทั้งหมด คงไม่มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่น
“สิ่งที่ผมทำมา 5 ปี อย่าให้มันล้มนะ สัญญาได้หรือไม่ ถ้าไม่สานต่อมันจะล้ม ผมก็มานั่งเสียใจอยู่ เสียดายโอกาสประเทศไทยมีเยอะขึ้น ต่างชาติสนใจการลงทุนวันหน้าก็จะขยายมากขึ้น พวกเราหัวใจนักสู้ อดทนมานานแล้ว ทนกับผมอีกนิดนึง ผมสัญญาจะทำอนาคตให้ท่าน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นหนังสือสั่งการที่ออกโดยจังหวัดแพร่ถึงนายอำเภอ ทุกอำเภอของจังหวัดแพร่ ให้จัดเตรียมคนมาต้อนรับ
โดยระบุข้อความว่า
เมื่อคืนเห็นคลิปลุงคนหนึ่ง บอกชาวบ้านว่าขอให้กล้าไปกับผม
คงไม่มีใครกล้าไป พรุ่งนี้ที่จังหวัดแพร่จึงมีหนังสือสั่งการให้นายอำเภอเกณฑ์ชาวบ้านมาต้อนรับ และน่าจะต้องฟังปราศรัยด้วย เพราะลุงต้องซ้อมไว้ขึ้นเวทีปิดท้ายในกรุงเทพฯ
นี่คืออีกแบบหนึ่งของการเอาเปรียบหรือไม่ ?
แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ เดินสายโดยงบหลวง ใช้กลไกรัฐจัดการคน
ประชาชนจะไม่ไปก็เกรงใจข้าราชการ ข้าราชการจะไม่ทำก็กลัวมาตรา 44
ส่วนคนใหญ่คนโตเขาไม่ต้องเกรงใจใคร
กกต.น่ะหรือ ร้องไปก็คงได้คำตอบประมาณว่า
“ไม่มีคนต่างชาติเกณฑ์คนไป”