นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ไม่แปลกใจที่กว่า 4 ปีมานี้ รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องได้ เพราะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “คันหู มีคนหาว่า เศรษฐกิจเสียหาย”

คนระดับรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจ ยังไม่รู้เลยว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ปากทัองอย่างหนัก

ประชาชนทุกภาค เหนือ ใต้ ออก ตก ตลอดจน กทม. ร้องโอดโอยกันทั้งนั้น ถ้าไม่ได้ยิน หรือไม่รู้ปัญหา ก็ควรกลับไปเลี้ยงหลานได้แล้ว

ประการสำคัญที่สุด ถ้ามองแต่เพียงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP โตขึ้นเท่านั้น

แล้วเอาตัวเลขมาโชว์ โดยไม่ไปสัมผัสความเดือดร้อนของประชาชนจริง ๆ ถือว่าผู้รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจไม่ใช่มืออาชีพ เข้าไม่ถึงรากของปัญหาอย่างลึกซึ้ง คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน

นอกจากรัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาไม่ถึงรากแล้ว กลับสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำให้มากขึ้นเสียอีก ยกตัวอย่าง เช่น

นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างมากว่า มีเป้าหมายแฝงที่ล้ำลึกไว้ หรือไม่ กล่าวคือ คนจนไม่มีโอกาสจับเงินเลย เพียงรูดบัตร งบประมาณ 48,000 ล้านบาท ก็ไปตกอยู่กับเจ้าสัวไม่กี่ราย จึงเกิดวลีสำคัญว่า

“รวยกระจุก จนกระจาย” เป็นที่กล่าวขานอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้

การอยู่บนหอตอยงาช้าง ไม่มีทางเห็นปัญหาที่แท้จริง เวลาลงพื้นที่ ก็จะมีขบวนการผักชีโรยหน้า จึงอย่าได้แปลกใจว่า ทำไมปัญหาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ ปากทัองของชาวบ้าน รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

ดังนั้น 24 มีนา ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะใช้สิทธิของตนเอง เลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่มีนักบริหารมืออาชีพและมีนโยบายเป็นที่น่าเชื่อถือ เข้ามาแก้ไขปัญหาประชาชน ด้วยมือของประชาชนเอง จึงขอเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้กันอย่างถล่มทลาย