หน้าแรก news “สุขุม” ชี้ พรรคเบอร์3-4 เนื้อหอม เชื่อ คสช.เล็งใช้สูตร ส.ว.ตั้งนายกฯก่อน แล้วดูดตั้ง รบ.ทีหลัง

“สุขุม” ชี้ พรรคเบอร์3-4 เนื้อหอม เชื่อ คสช.เล็งใช้สูตร ส.ว.ตั้งนายกฯก่อน แล้วดูดตั้ง รบ.ทีหลัง

0
“สุขุม” ชี้ พรรคเบอร์3-4 เนื้อหอม เชื่อ คสช.เล็งใช้สูตร ส.ว.ตั้งนายกฯก่อน แล้วดูดตั้ง รบ.ทีหลัง
Sharing

รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยถึงภาพรวมโค้งสุดท้ายการเมือง ว่า จะมีการปล่อยหมัดเด็ดกันมาทุกพรรค กรณีพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศชัดเจนว่า ไม่เอาพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  และนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นไพ่ใบสุดท้ายของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะเดียวกันท่าทีของพลเอกประยุทธ์ ที่เปลี่ยนไป และการปล่อยหมัดเด็ดคือคือ วลีที่กล่าวออกมาว่า  “ขอให้กล้าไปกับผม” ก็อาจจะเป็นไพ่ใบสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมไปถึงกรณีที่นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ถือเป็นหมัดเด็ดหรือไม่ แต่การออกมาเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ กลับส่งผลสะท้อนกลับมาที่นายสุเทพเอง เพราะหลังจากนี้คนที่จะไปเจรจาความกับนายสุเทพก็ต้องระวังนายสุเทพให้มากขึ้น การออกมาเปิดครั้งนี้จึงเป็นเสมือนการออกมาทวงบุญคุณของนายสุเทพ ตนมองว่าการกรทำของนายสุเทพเป็นเพียงการสร้างอำนาจการต่อรองให้กับตัวเองเท่านั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงเป้าประสงค์ของนายสุเทพ เพียงอย่างเดียว

รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า ไพ่ใบสุดท้ายนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่เอาพลเอกประยุทธ์นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อประชาธิปัตย์ มีจำนวน ส.ส.มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ แต่หากว่าได้จำนวนส.ส.น้อยกว่า ก็ส่งผลให้นายอภิสิทธิ์อาจจะต้องยอมถอยออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเปิดทางให้พลเอกประยุทธ์ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคภายหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

รศ.สุขุม กล่าวด้วยว่า  หลังการเลือกตั้งในการสรรหานายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะมีการเปิดเกมการเมืองใหม่ โดยการเร่งสรรหานายกรัฐมนตรีก่อน จากการนำเอาเสียงสนับสนุนที่มาจาก ส.ส.เพียง 126  เสียง บวกกับ ส.ว.จำนวน 250 เสียง ก็จะเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา จากนั้นก็จึงค่อยดึงพรรคการเมืองเข้ามาสนับสนุนในรัฐบาลเพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ นอกจากนี้ เชื่อว่าพรรคการเมืองอันดับ 3-4 จะกลายมาเป็นพรรคการเมืองเนื้อหอมทันที เพราะจำนวนส.ส.จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล  ซึ่งการออกตัวของพลเอกประยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งก็น่าสนใจเพราะเชื่อว่าจะมีการดึงนักการเมืองจากพรรคอื่นเข้ามาสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะเดียวกันรัฐบาลใหม่เชื่อว่าไม่น่าจะอยู่ครบเทอม เพราะในส่วนของรัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมแน่นอน ข้อเสียของรัฐบาลผสม ที่เกิดการต่อรองกันในรัฐบาลจนนำมาซึ่งความขัดแย้งรัฐบาลจนสุดท้ายก็ต้องไปยุบสภาเลือกตั้งใหม่

 


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่