นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการจับมือจัดตั้งรัฐบาลในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ว่า ตนไม่ทราบ และทางพรรคมีมติชัดเจนว่าให้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเป็นผู้ประสานการจัดตั้งรัฐบาลทั้งหมด ส่วนแนวโน้มจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ว่าจะร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคใดนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า อยู่ระหว่างการหารือกัน ซึ่งขณะนี้ เรามีการพูดคุยระหว่างกรรมการบริหารพรรคอยู่เป็นระยะๆ แต่ยังไม่ได้กำหนดท่าทีชัดเจน
เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอม ได้รับการติดต่อจากพรรคอื่นบ้างหรือไม่ นายสรอรรถ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ แต่ไม่ทราบถึงรายละเอียดในการจัดตั้งรัฐบาล ตรงนี้ต้องถามหัวหน้าพรรค และท่านเลขาธิการพรรค
เมื่อถามถึง ที่มีข้อกังขาในเรื่องของการนับคะแนนของ กกต. จุดยืนของทางพรรค จะมีการสื่อสารอย่างไร นายสรอรรถ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีความเห็นใจ กกต. เพราะเป็นการทำงานในครั้งแรกของ กกต. ทั้ง 7 ท่าน ซึ่งยังไม่เคยผ่านการจัดการเลือกตั้ง แม้แต่สนามเลือกตั้งท้องถิ่น ข้อผิดพลาดมีอยู่แล้ว แต่ประเด็นในเรื่องของข้อเท็จจริง บิดเบือนกันไม่ได้ เพราะว่า วันนี้ 9 หมื่นกว่าหน่วยก็จริง คะแนนทุกอย่างจบลงหลังจากการนับคะแนน ในแต่ละหน่วย 3-4 ชั่วโมงหลังจากปิดหีบ ซึ่งสามารถที่จะนับคะแนนได้แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องของข้อผิดพลาดเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการรายงานข้อมูล อาจจะมีการคาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง เป็นการคีย์ข้อมูลผิด แล้วก็มีการส่งต่อไปๆมาๆ จนทำให้ตัวเลขคาดเคลื่อน แล้วคนเกิดความสับสน โดยเฉพาะในประเด็นที่คะแนนแต่ละคะแนนมีความหมายต่อตัวเลขของผู้ที่จะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละพรรคการเมือง ตรงนี้เป็นอะไรที่ทุกคนอยากจะให้ทาง กกต. ประกาศให้ชัดเจนว่า แต่ละเขตเลือกตั้งนั้น มีคะแนนเท่าไหร่ อย่างไร ซึ่งเข้าใจว่า วันนี้ทาง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง หรือคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้งของแต่ละหน่วย คงจะส่งเอกสารเข้ามาที่ กกต. แล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะไปเก็บกันที่ไหน เพราะว่ามีจำนวนมาก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา จะเก็บไว้ที่หน่วยเลือกตั้ง นอกจากมีประเด็นของการร้องเรียน ต้องการขอตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงไปการดำเนินการ ก็เป็นเรื่องของการร้องในการนับคะแนนใหม่ ซึ่งขั้นตอนต่างๆยังคงมีอีก ทราบว่าภายในอาทิตย์นี้ ทาง กกต.จะมีการประกาศตัวเลขที่ชัดเจน ครบทั้ง 9 หมื่นกว่าหน่วย ที่มีการเลือกตั้ง แต่ว่าขั้นตอนหลังจากนี้ต่อไปก็เป็นเรื่องของการรอที่จะมีการรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ครบ 95 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะดำเนินการในการเปิดประชุมสภาต่อไปได้ นายสรอรรถ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ชูคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่พรรคเพื่อไทย(พท.)ชูจำนวนส.ส.เขต นายสรอรรถกล่าวว่า ตัวเลขยังไม่นิ่ง ทุกฝ่ายก็สามารถที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลได้ ประเด็นคือว่า ใครสามารถที่จะดำเนินการรวบรวมเสียงข้างมากได้คิดว่าประเด็นตรงนั้นสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา ก่อนการเลือกตั้ง ตนเข้าใจว่าเคยมีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดในพิธีลงสัตยาบันระหว่างพรรคการเมือง ที่นายโคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้น ซึ่งตนได้ถามย้ำในที่ประชุมแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ถึงจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทุกพรรคก็เห็นพ้องว่าใช่ รวมถึงพรรค พท. แต่ในวันนั้นไม่มีพรรค พปชร.เข้าร่วม
เมื่อถามว่า มีเงื่อนไขที่เสนอให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี นายสรอรรถ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ออกความเห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากว่าพรรคภูมิใจไทยก็เคารพในมติของพรรค ที่ให้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งที่ผ่านมา ช่วงหาเสียงพรรคก็ประกาศว่านายอนุทินมีความพร้อมเป็นนายกฯ แต่ความเป็นจริงก็ต้องดูสถานการณ์ความเหมาะสม ความมั่นคงและเสถียรภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ คะแนนค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก แต่ที่ผ่านมาก็เคยมีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมาแล้ว ประเด็นสำคัญคือ คนที่เป็นส.ส.ซีกรัฐบาลต้องมีวินัยในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะเวลามีการประชุมสภา ก็จะต้องอยู่ประชุมให้ครบองค์ประชุม ซึ่งก็เชื่อว่าจะบริหารจัดการได้
เมื่อถามว่า หากเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ มีการมองว่าพรรคภท.จะเป็นจุดคลายล็อก ตัวเลขก็เป็นแบบนั้น แต่ประเด็นของการตัดสินใจ ตนคิดว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องพิจารณา คงต้องรอดูการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค และท่านเลขาธิการพรรค
เมื่อถามว่า มีความรู้สึกกดดันหรือไม่ นายสรอรรถกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ถ้าเรื่องแค่นี้รู้สึกกดดัน ก็คงไม่เล่นการเมือง ขอให้ใจเย็นๆ การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักการและเหตุผล โดยเฉพาะรัฐบาลต้องมีความมั่นคง และประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้
เมื่อถามว่า หากพิจารณาจากกระแสสังคม พบว่าสนับสนุนให้พรรคภท.ไปทางไหนมากกว่า นายสรอรรถกล่าวว่า เราไม่ยึดติดกับกระแส เพราะยึดติดกับกระแสเมื่อใด จะทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนไปได้แต่ต้องยึดหลักการ เหตุผล ความเป็นไปได้ ความมั่นคง และความมีเสถียรภาพของรัฐบาลที่บริหารงานราชการต่อไป ส่วนจุดยืนของพรรคจะมีความชัดเจนเมื่อไรนั้น เราต้องพยายามให้เร็วที่สุด แม้ว่าจะมีเวลาอีกมาก แต่การจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ ต้องรอผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน
อย่างไรก็ตาม นายสรอรรถ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ตนได้ให้กำลังใจผู้สมัครที่พลาดหวัง และพูดคุยกับผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะว่าให้เข้ามาทำงานทางการเมือง และช่วยประสานงานในพื้นที่ต่างๆให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป