ผู้ว่า กทม.ไม่กังวลภัยแล้ง “กาฬสินธุ์” งดจ่ายน้ำเพื่อการเกษตรสิ้นเชิง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมการรับมือและป้องกันปัญหาภัยแล้ง ตลอดจนจัดเตรียมมาตรการป้องกันไฟไหม้ในช่วงฤดูแล้ง เช่น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2562 จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจัดทำมาตรการป้องกันไฟไหม้หญ้าและกองขยะในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของกรุงเทพมหานคร จัดทำประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า และประสานการประปานครหลวงขอรับการสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนสำนักการระบายน้ำได้ประสานความร่วมมือกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งกรมชลประทานยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอสำหรับจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้ง 2 เดือนสุดท้าย รวมทั้งได้กำหนดมาตรการจัดเตรียมน้ำสำรองไว้ใช้ช่วงต้นฤดูฝนและในสภาวะฝนทิ้งช่วง (เดือน พ.ค. – ก.ค. 62) จำนวน 6,042 ล้านลูกบาศก์เมตร

โดยปัจจุบันสำนักพัฒนาสังคมได้จัดทำแผนเพื่อเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหา พร้อมขอความร่วมมือ 26 สำนักงานเขตชั้นนอกที่มีพื้นที่ทำการเกษตร ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนวางแผนการปลูกพืช และการใช้น้ำอย่างเหมาะสม ทั้งนี้สำนักพัฒนาสังคมจะส่งเสริมการฝึกอาชีพเพื่อให้เป็นการสร้างรายได้เสริมสำหรับเกษตรกร หากเกิดปัญหาภัยแล้งจนไม่สามารถทำการเกษตรกรรมด้วย

ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ แหล่งน้ำตามธรรมชาติ และแหล่งน้ำสาธารณะหลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาใกล้แห้งขอดเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน โดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ เข้าสำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยนะโม บ้านนาคู ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเปิดเผยว่า สาเหตุที่ปริมาณน้ำในอ่างค่อนข้างเหลือน้อยกว่าทุกปีเนื่องจากปี 2561ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะบานประตูเกิดการชำรุดขณะนี้ได้ดำเนินการซ่อมแซมเสร็จแล้ว อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมาเกษตรกรหลายตำบลไม่สามารถทำนาปีได้ เพราะเกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลท่วม จึงขอทำนาปรัง ประกอบกับจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงเป็นสาเหตุทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยมะโนลดลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจ และประเมินสถานที่ในพื้นที่พบว่าปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ 9 แสนลบ.ม.เพียงพอกับการผลิตน้ำประปาอุปโภค บริโภคให้กับประชาชนกว่า 800 ครัวเรือน ส่วนการจ่ายน้ำเพื่อการเกษตรขณะนี้ได้งดอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่ปริมาณน้ำเพียงพอในการผลิตน้ำประปาในช่วงฤดูแล้งไปจนถึงหน้าฝนอย่างแน่นอน แต่เพื่อเป็นการป้องกันได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกลประมาณ 3 กม.สูบน้ำจากหนองแห้วเพื่อมาเติมในอ่างส่วนอุปสรรคในการการผลิตน้ำประปาที่มีช่วงขาดห้วงก็จะใช้เครื่องจักรเพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลมายังจุดที่สูบผลิตน้ำประปา สำหรับในการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นจะมีการขุดลอกบางส่วนเพื่อเพิ่มปริมาณในการกักเก็บน้ำให้มากขึ้นต่อไป

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 อ่าง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 19.444 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสถานที่เขื่อนลำปาวปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 585.80 ล้าน ลบ.ม.หรือ 29.59 เปอร์เซ็นต์ จากความจุระดับกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเพียงต่อการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก innnews.co.th และ posttoday.com