เดลินิวส์ รายงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการนำรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขึ้นทูลเกล้าฯว่า ขณะนี้ได้นำรายชื่อส.ว.ทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้บอกไปก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อส.ว.ว่าส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดคสช. และถูกมองว่าเป็นร่างทรงคสช.นั้น ตนเห็นว่ามีเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งคนเขาอยากทำงาน เขาก็เข้ามาทำงานเพื่อช่วยรัฐบาล ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนจากด้านอื่นๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลาออกกว่า 60 คน เพื่อไปเป็นส.ว. พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ ส่วนกรณีที่มีชื่อพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกสนช. ซึ่งเป็นน้องชายพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นส.ว.ด้วยนั้น ตนมองว่าเขาเป็นสนช.มาแล้ว ถ้าจะเป็นต่อก็ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพล.อ.ปรีชา ถูกวิจารณ์เรื่องการขาดการประชุมสนช.บ่อยครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องไปถามเจ้าตัวเอง
เมื่อถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า “แล้วจะมาถามอะไรผม ผมไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี จะไปจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ก็พูดกันไปเรื่อย”
เมื่อถามว่าในส่วนของตำแหน่งรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร พร้อมเข้ามาทำงานด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพราะยังไม่ได้นายกฯ จะไปรู้ได้อย่างไร
เมื่อถามอีกว่า ใครๆก็พูดว่าจะได้นายกฯ คนเดิม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ เมื่อถามย้ำว่า หากมีการส่งเทียบเชิญให้พล.อ.ประวิตร นั่งเป็นรมว.กลาโหม ต่อจะรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ยังไม่ได้นายกฯเลย แล้วจะมาถามอะไร
เมื่อถามว่าหากจะทำงานต่อเรื่องของสุขภาพไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวและไม่รู้ แล้วแต่เขา เขาจะมองอะไรและอย่างไรเราไม่รู้
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อาจจะมาเป็นรมว.กลาโหม นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้และไม่มีใครรู้ทั้งนั้น แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามีใครเป็นอะไรบ้าง ตอนนี้ก็มีแต่ทำงานไป
ด้าน นายเทอดธนัท สีเขียว คนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การสรรหา ส.ว. เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้นหรือไม่ และเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัยของสังคมว่ามีใครบ้างที่เป็นกรรมการสรรหา คสช. ก็ไม่ยอมเปิดเผยให้รู้เลย และได้ทราบจากข่าวว่าที่ไม่เปิดเผยก็เนื่องจากไม่อยากให้มีการวิ่งเต้นเหตุผลนี้ไม่น่าจะเพียงพอต่อการตอบข้อสงสัย เพราะเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็อยากรู้จักคนที่จะสรรหา ผู้แทนของปวงชนชาวไทยซึ่งมีอำนาจหน้าที่มากมายที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกเพศทุกวัย
นายเทอดธนัท กล่าวอีกว่า น่าสงสัยว่าได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าหรือไม่ในการกำหนดในกฎหมายว่าให้ สนช. และ ครม. ลาออกไปเป็น ส.ว. ได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการเว้นวรรค ซึ่งผิดกับในอดีตที่ ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะไปเป็น ส.ว. กฎหมายกำหนดให้ต้องเว้นวรรคอย่างน้อย 5 ปี การกระทำเช่นนี้จะทำให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากมองว่าเป็นการปูทางเพื่อการสืบทอดอำนาจใช่หรือไม่
“ตัวเลขงบประมาณ 1,300 ล้านบาท ของ กกต. เป็นการคัดเลือก ส.ว. เพียง 50 คน ยังเหลือ ส.ว. อีก 194 คน ที่ คสช. จะต้องตั้งกรรมการคัดเลือก ซึ่งยังไม่ทราบตัวเลขงบประมาณในการคัดเลือก ส.ว. ที่เหลืออยู่ น่าเสียดายเงินงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชนจำนวนหลายพันล้านบาทที่ใช้เพื่อการสรรหา ส.ว. 250 คน แต่สุดท้ายจะได้คนหน้าเดิมๆใน ครม.ใน สนช. และในเครือข่ายของ คสช. เป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นจริงตามข่าวที่ออกมาเช่นนี้ การสรรหา ส.ว. ของ คสช. เป็น ”ปาหี่การเมือง” ตบตาประชาชนหรือไม่” นายเทอดธนัท กล่าวทิ้งท้าย
นายเทอดธนัท สีเขียว