น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึง กระแสข่าวที่พรรคอนาคตใหม่จะยกมือให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. ว่า สำหรับเราไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ไม่สำคัญเท่ากับการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. โดยการปิดกลไก ที่คสช.วางไว้ เราจึงขอความร่วมมือในฐานะ ผู้แทนราษฎรด้วยกันที่มาจากพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคที่ได้ยืนยันกับประชาชน ก่อนเลือกตั้งว่า จะต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ของ คสช. ขอให้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
“เราพร้อมเปิดให้ทุกพรรคมาร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ขอยืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่ พร้อมยกมือให้บุคคลที่เสียงส่วนใหญ่ ในสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น”
ทั้งนี้ นายไทกร พลสุวรรณ อดีตนักการเมืองที่ผันตัวไปเป็นผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตนเองว่า
“เกมส์เริ่มพลิก..!
เมื่อเพื่อไทยกับอนาคตใหม่เปลี่ยนเกมส์ ยึดยุทธศาสตร์หลัก ต้องสกัดประยุทธ์ ประวิตร ให้ได้ โดยใช้การถอยทางยุทธวิธี รุกทางยุทธศาสตร์ ความคิดตกผลึกไม่เอาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้พรรคลำดับ 4 ลำดับ 5 เพื่อรวมเสียง ส.ส. ให้ได้ 350 เสียงขึ้นไป ว่าที่นายกรัฐมนตรีก็มาตกอยู่ที่ อภิสิทธิ์และอนุทิน”
นอกจากนี้ นายไทกร ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า แผนหรือกลยุทธ์ดังกล่าวมีกระแสประชาชนเป็นจุดชี้ขาด และจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. มาเพิ่มอีกอย่างน้อย 26 เสียง
“กระแสประชาชนคือตัวชี้ขาดในเกมส์นี้ เรื่อง ส.ว. จะโหวตหนุนหรือไม่? ไม่ใช่ปัญหา เพราะเมื่อประยุทธ์ถอย ส.ว. ก็ฟรีโหวต
เกมส์นี้ใช้ ส.ว. มาโหวตหนุนแค่ 26 เสียงขึ้นไปเท่านั้น
ต้องติดตามกันต่อไปเกมส์นี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่?”