นพ.โสภณ เมฆธน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ระหว่างกรมการแพทย์ กับ อภ. ว่า สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ของ อภ.จะได้ในเดือน ก.ค.นี้ หาก อภ.และกรมการแพทย์ร่วมมือกันพัฒนาระบบการนำสารสกัดกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้จะเกิดประโยชน์กับประชาชน
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า อภ.ได้ปลูกและวิจัยสารสกัดน้ำมันกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น 3 สูตร คือ 1. THC สูงกว่า CBD 2. CBD สูงกว่า THC และ 3. สัดส่วน THC และ CBD 1 ต่อ 1 สำหรับหยดใต้ลิ้น ขนาด 5 มิลลิลิตร โดย ก.ค.นี้ จะได้ 2,500 ขวด และจะขยายการปลูกระยะที่ 2 บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 8 เท่า
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สารสกัดกัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษาแต่ยังขาดข้อมูลจากงานวิจัยที่เพียงพอ ดังนั้นสถาบันฯจึงเตรียมนำสารสกัดน้ำมันกัญชาที่ได้จาก อภ.มาศึกษาประสิทธิภาพในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ทำลายเซลล์มะเร็ง ว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งจะเน้นโรคมะเร็งที่พบมากในไทย คือ มะเร็งตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ เต้านม และปากมดลูก ภายในเดือน ส.ค.จะเริ่มทดลองในระดับเซลล์ และขอย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีการนำกัญชามาใช้รักษามะเร็ง ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยส่วนหนึ่งทิ้งการรักษาไปพึ่งสารสกัดน้ำมันกัญชา จนมีบางรายกลับมารักษาด้วยอาการซึม และไม่รู้สึกตัว