หน้าแรก news เฮ ! ไข่ไก่ – ข้าวเปลือก ราคาพุ่ง

เฮ ! ไข่ไก่ – ข้าวเปลือก ราคาพุ่ง

0
เฮ ! ไข่ไก่ – ข้าวเปลือก ราคาพุ่ง
Sharing

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาไข่ไก่ ว่า ราคาไข่ไก่ตกต่ำอย่างต่อเนื่องมาหลายปีเนื่องจากผลผลิตไข่ล้นตลาด จนผู้เลี้ยงทนไม่ไหว ในวันที่12 ธันวาคม 2560 สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และเครือข่ายผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยเข้าร้องเรียนให้ตนช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยขณะนั้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 1.80 – 1.90 บาท ผู้เลี้ยงต้องการให้ภาครัฐใช้งบประมาณของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มาช่วยเหลือเหมือนเช่นทุกครั้งในอดีต

นายกฤษฎากล่าวว่า ได้ใช้แนวคิด “ตลาดนำการผลิต” มาใช้ปรับ “โครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรของไทย” สั่งการกรมปศุสัตว์ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์หรือเอ้กบอร์ดให้เร่งจัดทำ “โครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2561” โดยไม่ใช้งบประมาณจากภาครัฐไปอุดหนุนเพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงินการคลังของประเทศ ใช้หลักการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน ปรับปริมาณผลผลิตไข่ ให้สมดุลกับความต้องการของตลาด เพื่อให้ราคาไข่ไก่มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ต้องไม่เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค

“ผลจากการดำเนินมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวตลอดปี 2561จนถึงปัจจุบันผลผลิตไข่ในห้วงที่ความต้องการบริโภคในประเทศลดลงเช่น ปิดภาคเรียน เทศกาลกินเจ ไข่ยังมีราคาดี ต่างกับทุกปีที่ผ่านมาซึ่งราคาจะตกมากตามวัฏจักร แต่ครั้งนี้ราคาไข่อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรอยู่ได้ไม่ขาดทุน จากนั้นราคาปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับว่า เป็นแนวทางแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สถานการณ์ปัจจุบันมีปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรง 48 ล้านตัว ผลผลิตไข่ 38-39 ล้านฟองต่อวัน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มมีการปรับตัวจนฟองละเกือบ 3.0 บาท มั่นใจว่า แนวโน้มราคาไข่จากนี้ไปจะมีเสถียรภาพ เกษตรกรจะมีรายได้มั่นคงแน่นอน” นายกฤษฎากล่าว

ราคาไข่ที่พุ่งทะยานขึ้นทำให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ยิ้มออก ผู้แทนเกษตรกรรายย่อยจากทั่วประเทศได้เข้าขอบคุณรัฐมนตรีเกษตรฯ ที่แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ร่วงจนบรรลุผลสำเร็จแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพราะเป็นการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้งบประมาณภาครัฐมาอุดหนุน แต่ใช้ความเอื้ออาทรของผู้ประกอบการรายใหญ่มาช่วยเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมด้วยกันได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อีกทั้งยังทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่มีรายได้สูงขึ้น ประกอบอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ขณะที่ราคาข้าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะทำงานวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรขึ้นมา เพื่อกำหนดปริมาณการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ โดยกำกับดูแลการปลูกข้าวไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด ปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้มีผลผลิตสูง พันธุ์ข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับผู้รักสุขภาพ เช่น พันธุ์ กข43 และพันธุ์ข้าวนุ่ม พันธุ์ กข79 ที่ตลาดต้องการ รวมทั้งแนะนำให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมกับดินและน้ำ อีกทั้งจัดการระบายข้าวที่ค้างในสต๊อกให้หมดลง ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกขยับสูงขึ้น เช่น ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิเพิ่มขึ้น จากปี2557 ราคาตันละ 12,781 บาท ในปี2557 เป็นตันละ16,000 บาทในปี 2562

“เนื่องจากพื้นที่ปลูกข้าวได้เพิ่มขึ้นจากแรงจูงใจโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวตกต่ำ การปรับปริมาณข้าวให้เหมาะสมกับความต้องการ จึงเป็นแนวทางสำคัญตามแผนข้าวครบวงจร ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ รัฐบาลจึงมีโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา เพื่อปรับสมดุลปริมาณพื้นที่ปลูกข้าวและสร้างรายได้ทดแทน โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต ซึ่งสามารถทดแทนการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยประสานผู้รับซื้อกำหนดแผนการผลิตและตลาด มีหลักประกันด้านราคารับซื้อและประกันภัยพิบัติ “นายกฤษฎา กล่าว


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่