นายไกรเสริม โตทับเที่ยง รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า มิติของการเมือง เรื่องแย่งชิงอำนาจ ควรจบได้แล้ว เพราะ ประการที่หนึ่ง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยเลย เห็นได้ชัดว่า หลังจากมีการเลือกตั้ง ประชาชนได้รับรู้ข่าวสาร ในด้านที่เสนอแต่ว่า ใครจับมือกับใคร ใครแย่งชิงตำแหน่งกับใคร ใครจะได้เป็นขั้วอำนาจ
แต่กลไกทั้งปวง ล้วนแต่อยู่ที่กลุ่มการเมืองที่ดำเนินการจัดตั้ง ผมอยากให้มองว่า ทุกฝ่ายล้วนมีความตั้งใจ มุ่งมั่นว่าได้เสนอตัวกับประชาชนแล้ว และได้รับการยอมรับเป็นคะแนนเสียงจากประชาชนแล้ว
ดังนั้นควรยุติเรื่องข้อขัดแย้งเสมือนว่า การแย่งชิงอำนาจ คือ end games หรือสิ้นสุดลงของการต่อสู้
ประการถัดไป สิ่งที่ประชาชนได้รับรู้นั้น ไม่ได้สร้างสรร หรือสร้างให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อผู้บริหารประเทศของพวกเราเลย กลับกันอาจสร้างรอยร้าวลึกของความขัดแย้งให้มากขึ้นไปอีก
ผมเสนอว่า อยากให้มีการนำเสนอข่าวสารการเมือง ที่ประชาชนให้ความสนใจ และควรมีส่วนร่วมได้ นั่นคือ การติดตามภาระกิจ ความรับผิดชอบ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ของคณะผู้บริหารประเทศ ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเราอย่างไร
และ ผมยืนยันว่า มีนักการเมืองหน้าใหม่ ทั้งที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. และไม่ได้รับเลือก แต่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ สร้างสรร และต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศไทยของเรา
ขอโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงมิติด้านนี้ของการเมืองด้วย โดยเราควรก้าวข้ามความขัดแย้งกันมา และทุกคนก็ไม่อยากกลับไปย่ำกับปัญหาเดิมๆ
สุดท้ายในนามของพรรคพลังประชารัฐ มีความตั้งใจจริง ที่จะสานงาน และเสริมต่อ โดยทำงานทันที! เห็นได้จาก ส.ส. พื้นที่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ล้วนแต่ลงพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่ 24 มีนาคม เป็นต้นมา เพราะงานของประเทศชาติ รอไม่ได้
และท้ายสุด ในนามพรรคการเมือง ขอเรียกร้องให้ สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ได้นำเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยให้ความสำคัญกับเนื้อหา ความสามารถในการติดตามนโยบาย ที่พรรคการเมืองได้ให้ไว้กับประชาชนในระหว่างมีการเลือกตั้ง
เพราะนั่นคือ สัญญาณของการเมืองสร้างสรรค์ ช่วยกันติดตาม ตรวจสอบ และออกความเห็น เพื่อประโยชน์โดยรวมของทุกคน
ถึงแม้ผมจะไม่ได้มีบทบาท และทำหน้าที่ในสภาฯ แต่ผมยืนยันว่า ผมขอสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนาทีนี้ เราควรเดินหน้า และสานต่องานทุกภาคส่วนให้มีความพร้อม เพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป