ว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย กล่าวถึงอนาคตรัฐบาล “บิ๊กตู่” หลังเลือกตั้ง ระบุว่า เรื่องเพิ่งเริ่มอย่าไปมองในแง่ลบนัก รอดูละครหลังจากนี้ก่อนว่าจะไปอย่างไรต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเข้ามาคัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยตัวเอง ก็น่าจะมีการพิจารณาตรงนี้มากขึ้น เพราะงานข้างหน้าไม่ได้หมู งานที่จะต้องทำต่อไปเป็นงานใหญ่ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะไม่อยากเปลืองตัว เพราะหากบริหารงานไม่ดีก็จะต้องโดนด่า คิดว่าน่าจะมีการเตรียมการทำงาน และพิจารณาเลือกสมาชิกที่จะเข้ามาเป็น ครม.อย่างดีที่สุด ไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองเสนอชื่อมาก็เลือกตามนั้น น่าจะต้องมีการพูดคุยและหารือร่วมกันก่อน คงจะประนีประนอมกันไปในลักษณะที่ให้อยู่ แต่คงทำได้ไม่ง่าย เพราะเรื่องการเมืองก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ มีแต่หน้าเก่าๆ แม้จะมีหน้าใหม่เข้ามาบ้าง ก็ไม่รู้ว่าจะพูดรู้เรื่องหรือไม่ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
แต่เชื่อว่าน่าจะมีวิธีในการทำงานร่วมกันได้ แม้จะมาจากหลายพรรคการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ก็น่าจะมีการบริหารความเสี่ยงของตัวเองอยู่ ถ้าจะเอาให้ได้ดั่งใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ ทำให้ ครม.น่าจะผสมผสานกันไป เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนี้ต้องไปแบบนี้เหมือนกัน ปัญหาที่รออยู่ข้างหน้ามันไม่ง่าย แต่พอมันไม่ง่าย ก็ยังมีข้อดีคือ ประเทศไทยต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจรากหญ้ามากขึ้น ถ้าเป็นแบบเก่าก็มีฟังเสียงรากหญ้าบ้าง ถึงบ้างไม่ถึงบ้าง แต่การเมืองแบบนี้อย่างไรก็ต้องฟัง ต้องรับรู้ความต้องการ รู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนรากหญ้าที่จะสะท้อนขึ้นมา แม้ว่าอาจจะไม่มีอะไร 100% แต่ถ้ามีความตั้งใจในการบริหารงานจริง พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะนำประเทศเดินไปข้างหน้าจะเป็นบริบทที่ฉีกแนวไปหรือไม่ ต้องรอดูการบริหารงานหลังจากนี้ก่อน อย่าลืมว่าถ้าบริหารพลาดจะมีคนที่รอซ้ำอยู่ แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลเองอาจจะออกมาตรวจสอบความผิดพลาดตรงนี้ด้วย ตามที่ประกาศกันไว้ของแต่ละคนแต่ละพรรค ถามว่าตรงนี้จะได้ 100% เลยหรือไม่ เชื่อว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศก็ไม่มีทางทำได้ครบ 100%
เรื่องเสถียรภาพการทำงานบอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่มีหลายพรรคเข้ามาร่วมด้วย การแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ไม่ลงตัว จนมีข่าวแง่ลบตั้งแต่ต้น เป็นเหมือนกลล่อที่อาจจะเริ่มต้นแข็งๆ แต่ก็กลับมาอ่อนกันได้ คงมีแนววิธีในการบริหารที่เราไม่รู้ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะพอมองออกว่าจะต้องเจอปัญหาแบบนี้แน่นอน คงมีวิธีรับมือเตรียมไว้แล้วเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยและเดินหน้าไปได้ ต้องรอดูไปสักพักหนึ่งก่อน อย่างน้อยที่สุดปัญหาเก่าน่าจะพอรู้และหาวิธีแก้ไขไว้แล้ว คิดว่าการทำงานมา 4-5 ปีไม่สูญเปล่า แม้จะบริหารงานในลักษณะที่เศรษฐกิจฐานรากยังไม่ดีมากนัก แต่อย่าลืมว่าการค้าโลกกำลังแย่ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน
ผมไม่กล้ามีข้อเสนอแนะไปแนะนำผู้นำประเทศ เพราะการบริหารธุรกิจและการบริหารประเทศไม่เหมือนกัน การบริหารประเทศต้องมีลูกล่อลูกชนมากกว่าเยอะ ดูว่าอันไหนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ต้องปรับสัดส่วนให้สมดุลกันให้ได้ แตกต่างจากบริหารธุรกิจที่สั่งแล้วได้เลย ถ้าไม่ได้ก็ไล่ออก แต่งานราชการถ้าไม่ผิดจริงไม่สามารถไล่ออกส่งเดชได้ เพียงแค่คาดหวังให้ทำงานโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและเห็นแก่ชาติบ้านเมืองเป็นหลัก เพราะหากสวมวิญญาณนักการเมืองที่เห็นแก่ตัวและพรรคพวกมาก่อน ประเทศไทยแย่แน่นอน
ขอบคุณ : มติชน