เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.62 “ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส. จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายโกวิท วงศ์สุรวัฒน์ (บิดาของ จอห์น วิญญู วงศ์สุรวัฒน์) ในข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ มีรายละเอียดว่า “ทนไม่ได้ คุกคะ
คืนนี้ มาแจ้งความที่ สน ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีกับ นายโกวิทย์ วงศ์สุรวัฒน์ (คุณพ่อจอห์นวิญญู) ข้อหาดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ฟังดีๆนะจ๊ะ.. ท่านเลขาฯพรรคอนาคตใหม่ คำสั่ง มติ หรือคำพิพากษาศาลถือเป็นอันสิ้นสุด หยุดนิสัย ไม่ดี พูดจาเสียดสี บิดเบือนให้คนเข้าใจผิด เพราะท่านเองก็ใกล้จะถูกดิฉันแจ้งความ”
เช่นเดียวกับ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng โดยมีเนื้อหาดังนี้
…..กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับเรื่อง ส.ส. 32 คนไว้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) หรือไม่ แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น
…..ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส.32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า เนื่องจากไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ผู้ถูกร้องถือหุ้นอยู่และไม่มีแบบแสดงงบการเงินว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากกิจการใด กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงที่ฟังได้ยุติต่อไป เมื่อไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่
…..ข้อความในข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นภาษีไทย คนไทยที่อ่านภาษาไทยเข้าใจและมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ครบถ้วนอ่านแล้วน่าจะรู้เรื่องและเข้าใจถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส. 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่
…..แต่ยังมีบุคคลซึ่งน่าจะเป็นคนไทยแต่ไม่อ่านเหตุผลดังกล่าวหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจหรือเข้าใจ แต่ต้องการด่าศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า
…..” ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ น่าจะเกินคำว่าด้านเสียแล้ว ”
…..ข้อความที่ว่า “น่าจะเกินคำว่าน่าด้านเสียแล้ว” เป็นการดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
…..การกล่าวข้อความดังกล่าวในทวิตเตอร์ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วประเทศ จึงเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทยและความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ประชาชนทุกคนมีสิทธิไปแจ้งความกล่าวโทษได้
…..ดังนั้นประชาชนไทยคนหนึ่งคนใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษบุคคลนี้ที่ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งต่อพนักงานสอบสวนได้ทุกสถานีตำรวจในประเทศไทย ไม่ว่าภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางหรือภาคใต้.