ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในพรรคพลังประชารัฐ มีเสียงวิจารณ์ถึงปัญหาความไม่ลงรอยภายในพรรค หลังจาก นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตร จะหลุดจากตำแหน่ง รมช.คลัง เช่นเดียวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ก็จะไม่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้
ขณะที่นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ก็มีชื่อหลุดโผตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อเปิดทางให้นายกอปรศักดิ์ ฟูตระกูล โฆษกพรรค และหนึ่งในทีมเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เข้ามารับตำแหน่งแทน
ที่สำคัญ ล่าสุด มีข่าวว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ถูกขอให้คืนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แล้วให้ไปทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแทน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจกับสมาชิกกลุ่มสามมิตรอย่างยิ่ง จนมีกระแสข่าวว่าทางกลุ่มสามมิตรกำลังทบทวนบทบาทของตัวเองในพรรคพลังประชารัฐต่อไป
ทั้งนี้ นายอนุชา กล่าวถึงกระแสดังกล่าวว่า ตนยังไม่เชื่อว่าทั้งหมดนั้นเป็นความจริงตามข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับปากกับ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า โผ ครม.ที่ตกลงกันในส่วนของโควต้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ตนได้รมช.คลัง นายสุริยะ เป็น รมว.พลังงาน และบุคคลในพรรคพลังประชารัฐที่จัดโควต้าไว้ให้เป็นไปตามนั้น ขออย่าเปลี่ยนแปลงอีก
“ผมคิดว่าท่านนายกฯเป็นชายชาติทหารและเป็นคนรักษาคำพูด จะไม่ผิดคำพูดแน่นอน และยึดเอามาตรฐานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.เป็นหลัก เพราะทุกคนที่ได้รับแจ้งในวันนั้นก็ยังมั่นใจในคำพูดของนายกฯเช่นกัน” นายอนุชากล่าว.
ขณะที่ นายสุชาติ กล่าวว่า หากเป็นดังข่าวที่ออกมาจริง คิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่าว่าแต่จะได้ ส.ส.ภาคกลางเพิ่มขึ้นเลย จะเหลือจำนวน 15 คน เท่าเดิมหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ เนื่องจาก ส.ส.ภาคกลาง ก็คาดหวังว่าจะได้มีตัวแทนไปเป็นรัฐมนตรีเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ และผมไม่เห็นด้วยที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะมีนักวิชาการมากมาย เพราะวันนี้ทุกอย่างต้องสู้กันด้วยการเมือง