“พรรคภูมิใจไทย มีเดิมพันที่สำคัญอยู่ที่นโยบาย ถ้าเราสามารถทำสิ่งที่เราพูดไว้ประสบความสำเร็จ เราก็ไปต่อได้ แต่ถ้าเราทำไม่ได้ อย่างนโยบายกัญชาเสรี ถ้าทำแล้วไม่เห็นผล เราก็สูญพันธุ์ เราคือพรรคปฏิบัติ มีแต่การทำงานหนัก ที่จะทำให้อยู่รอด”
เป็นคำพูดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขป้ายแดง กล่าวไว้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่งาน “กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์” เผยให้เห็นแนวทางของพรรค ในนิยามคำว่า “พรรคปฏิบัติการ” ซึ่งดูเป็น “ของใหม่” ในสารบบการเมืองไทย ที่ยังนิยมเล่นล้อกับเรื่องอุดมการณ์เป็นสำคัญ
ความมุ่งมาดของนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ดำเนินมาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้ง เพราะพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวหัวเสียงด้วย “นโยบายปากท้อง” โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องการเมืองมากนัก
แต่สื่อสารว่านโยบายของพรรค
จะเริ่มอย่างไร
ทำอย่างไร
มีตัวอย่างจากไหน
และคนไทยจะได้อะไร
ยกตัวอย่างจากนโยบายกัญชาเสรี ที่พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้พูดมาลอยๆ แต่สะท้อนให้เห็นสรรพคุณของกัญชาในฐานะยารักษาโรค และพืชเศรษฐกิจ ฉายภาพความสำเร็จจากนานาชาติมาเป็นข้อมูลตอกย้ำความจำเป็นของนโยบายนี้ กระทั่งกลายมาเป็นนโยบายที่ทำให้สามารถโกยคะแนนจากประชาชนอย่างน่าทึ่ง
เช่นเดียวกับนโยบายด้านการเกษตร อาทิ นโยบายแบ่งปันกำไรข้าว ก็เป็นภูมิใจไทย ที่เสนอแนวคิดให้นำ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลมาปรับใช้กับข้าว โดยคิดมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ข้าวถุง และข้าวเปลือก แล้วแบ่งให้ชาวนา โรงสี และพ่อค้า ในสัดส่วนที่เป็นธรรม เช่นเดียวกับที่มูลค่าของน้ำตาลต้องแบ่งให้ชาวสวนอ้อย โรงหีบอ้อย และพ่อค้า ตามความพอใจของทุกฝ่าย
เป็นการหาเสียงโดยใช้นโยบายปากท้อง นำการเมือง พร้อมย้ำภาพ “การปฏิบัติได้จริง”
นี่คือจุดเด่นของพรรคภูมิใจไทย ที่มิอาจหาคำนิยามได้ จนกระทั่ง รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง นักรัฐศาสตร์ ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของประเทศ จำกัดความในแนวทางการทำงานของพรรคภูมิใจไทยเป็น “พรรคปฏิบัติการ” หรือพรรคที่ตั้งหน้า ตั้งตา ทำงาน และใช้จุดนี้ เป็นจุดเด่นเดียวเหนือเรื่องอุดมการณ์นิยม
“พรรคการเมือง มีทั้งพรรคอุดมการณ์ และพรรคปฏิบัติการ พรรคภูมิใจไทย เป็นแบบหลัง คุณก็รู้ เขาไม่ได้มาต่อสู้ทางการเมืองแบบเข้มข้น ความอยู่รอดของพรรคนี้ ขึ้นกับความสำเร็จของนโยบาย”
รศ.สุขุม อธิบายเส้นทางของพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 24 พฤษถาคม โดยต่อมา นักวิชาการท่านนี้ ยกให้พรรคภูมิใจไทย เป็น “ความหวัง” ของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ชนิดไม่มีเวลา “ฮันนีมูน”
ความเป็น “พรรคปฏิบัติการ” ของ “ภูมิใจไทย” ได้รับการตอกย้ำอีกครั้ง โดย ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต ได้ระบุว่า “พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคเดียวที่ยังพูดเรื่องนโยบาย พูดจนคนจำ ทั้ง กัญชา, GRAB ที่คนจำเพราะเขารู้สึกว่ามันไม่เพ้อฝัน จับต้องได้ พรรคมีนักคิด แต่ก็ต้องเป็นพรรคปฏิบัตินิยมด้วย พรรคต้องรักษาจุดเด่นตรงนี้ไว้”
ชัดเจนว่าภูมิใจไทย ในฐานะของ “พรรคปฎิบัติการ” ได้เข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ ในสนามการเมืองไทย ซึ่งพรรค และตัวนายอนุทิน ต้องแบกรับความคาดหวังของคนไทย ที่ต้องการเห็นนโยบายของพรรคเป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งเป็นภารกิจ ที่ทั้งหนัก และเหนื่อย
แต่จะสร้างคุณค่าอันน่าจดจำให้กับพรรคภูมิใจไทย ดังภาษิตที่ว่า “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน” และความสำเร็จของพรรคจะกลายเป็นมิติใหม่ของการเมืองไทย เป็นบรรทัดฐานว่าพรรคการเมืองในอนาคต มิได้ตัดสินแพ้ชนะกันด้วย “ปาก” แต่วัดกันที่ “ผลงาน” มากกว่า
Ringsideการเมือง