หน้าแรก news “พุทธิพงษ์” ยัน รบ.พร้อมแจงทุกเรื่องที่อยู่ในกรอบ “รุ่นใหม่พปชร.” ลั่น 20 องครักษ์ไม่มีไก่อ่อน! ด้าน “สิระ” จวก “ทรงกลด” ดันบ่อนเสรี

“พุทธิพงษ์” ยัน รบ.พร้อมแจงทุกเรื่องที่อยู่ในกรอบ “รุ่นใหม่พปชร.” ลั่น 20 องครักษ์ไม่มีไก่อ่อน! ด้าน “สิระ” จวก “ทรงกลด” ดันบ่อนเสรี

0
“พุทธิพงษ์” ยัน รบ.พร้อมแจงทุกเรื่องที่อยู่ในกรอบ “รุ่นใหม่พปชร.” ลั่น 20 องครักษ์ไม่มีไก่อ่อน! ด้าน “สิระ” จวก “ทรงกลด” ดันบ่อนเสรี
Sharing

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ที่หอประชุมทีโอที แจ้งวัฒนะ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ ว่า ฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อม ขณะที่นายกฯได้เน้นย้ำกับ ครม. ให้เตรียมตัวให้พร้อมในการชี้แจงทุกเรื่องต่อรัฐสภา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลเชื่อว่าการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม และเราเชื่อในตัวประธานรัฐสภาว่าจะสามารถควยคุมการประชุมให้อยู่ในข้อบังคับ และอยู่ในเรื่องที่จะมีการแถลงในวันพรุ่งนี้

เมื่อถามว่า รู้สึกกังวลหรือไม่ที่อาจมีการนำคดีที่เกี่ยวข้อกับกลุ่ม กปปส. มาพูดในการอภิปรายครั้งนี้ด้วย นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะหากเรื่องที่นำมาพูดกันในการอภิปรายเป็นเรื่องที่อยู่ในข้อบังคับ และหัวข้อที่จะอภิปราย ตนก็พร้อมจะตอบ ซึ่งทุกอย่างมีความชัดเจนมาตั้งนานแล้ว แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะอภิปรายในเรื่องใดบ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เคยเป็นข่าวออกมาแล้วนั้น ตนพร้อมชี้แจง เพราะอาจมีหลายเรื่องที่คนยังไม่เข้าใจ แม้กระทั่งเรื่องคุณสมบัติที่ได้มีการตรวจสอบมาระดับหนึ่งแล้ว และยังมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครนำออกมาพูดถึง ซึ่งตนก็ได้เตรียมเอการในเรื่องเหล่านั้นไว้ ทั้งที่เป็นเอดสารสำคัญ และเอกสารเบื้องลึก ทั้งนี้ ตนอยากให้ ส.ส. หรือตัวแทนของพรรคที่จะลุกขึ้นอภิปรายไปศึกษาข้อมูลให้ละเอียดทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ และเรื่องต่างๆก็ขอให้เขารอบคอบ เพราะเมื่อเขาจะมาตรวจสอบคนอื่นก็ต้องระมัดระวังในการที่จะถูกคนอื่นถูกรวจสอบกลับด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า  การที่ระบุว่ามีข้อมูลเบื้องลึกไว้นั้น หมายความว่าได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามไว้เพื่อเตรียมี่จะมาพูดในสภาด้วยใช่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ใช่ครับ หากมีการนำเหตุการณ์ หรือเรื่องที่ถูกนำเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลแต่ถูกนำมาบิดเบือนข้อเท็จจริง ฝ่ายเราก็ต้องชี้แจงแน่นอน ซึ่งจะต้องพูดถึงสาเหตุว่าสิ่งที่พวกตนได้ทำไปในวันนั้นคืออะไร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงที่มาที่ไป

นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีรัฐมนตรีที่เคยเป็นกลุ่ม กปปส. ไปตีกอล์ฟในเวลาราชการ ว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน และอยากรู้ด้วยว่าใครเป็นคยออกมาให้ข่าวนี้ แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ไปตีกอล์ฟ ถ้าตนเข้าใจไม่ผิดคือ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดแข่งขันกีฬากอล์ฟโดยนักศึกษาในหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ของสถาบันพระปกเกล้าฯ ซึ่งตนเป็นประธานกอล์ฟของรุ่น จัดที่สโทมสรราชพฤกษ์ แต่ตนไม่ได้ไปร่วมงานนี้ด้วย เพราะทำงานอยู่ที่กระทรวงจนถึงค่ำ โดยมีพยานยืนยันได้ และมีบุคคลอีกลายสิบคนที่เกี่ยวข้องไปเป็นกลุ่มใหญ่จำนวนมากที่ยืนยันได้ว่าตนไม่ได้ไปตีกอล์ฟในเวลาราชการ พวกเรารู้ดีว่ามารยาทเป็นอย่างไร และควรปฏิบัติตัวอย่างไร จึงขอยืนยันว่าเรื่องที่มีข่าวว่าตนไปตีกอล์ฟด้วยนั้นไม่จริงแน่นอน และเรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่กระทรวงดีอีต้องจัดตั้งศูนย์ป้องกันข่าวปลอมซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพราะข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม หากใครมีหลักฐานยืนยันสามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นผู้กล่าวหา หรือแถลงข่าว ตนก็ยินดีให้นำมาเปิดเผย เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีการไปตีกอล์ฟเมื่อไหร่ เวลาอะไร แต่ตนยืนยันว่าในงานวันนั้นไม่มีคตนอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมอวงค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยืนร้องกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อาจเข้าข่าวครอบงำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และตั้งข้อสังเกตว่าการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นั้นไปในฐานะใด นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ผู้ที่ไปยื่นร้องเรียนมีสิทิที่จะดำเนินการได้ ขณะที่ผู้ถูกร้องก็ต้องมีหน้าที่ชี้แจงให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร สามารถชี้แจงได้ โดยพล.อ.ประวิตรก็ได้ระบุแล้วว่าเป็นการไปตรวจราชการด้วย และเมื่อทราบว่ามีส.ส.ไปประชุมอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ท่านก็เข้ามาพบปะในตอนเช้า เป็นการแวะมาเยี่ยม และพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ แล้วกลับ โดยไม่ได้ไปมอบนโยบาย หรือชี้นำให้แนวทางแก่ผู้บริหารของพรรค ซึ่งในวันนั้นก็มีผู้สื่อข่าวอยู่จำนวนมา และทำอย่างเปิดเผย ตนจึงเชื่อว่าข้อมูลข้อเท็จจริงตรงนี้ก็คงถูกนำมาชี้แจงต่อไป

ขณะที่นางสาว​ภาดา​ท์​ ว​ร​กา​นนท์​ ส.ส กทม พรรค​พลัง​ประชา​รัฐ​ กล่าวว่า องครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีน่าจะเป็นคำกล่าวที่เป็นคำที่สร้างสีสันให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลคึกคักมากยิ่งขึ้น​ ไม่ได้มีความหมายโดยนัยยะอะไร​ จริงๆแล้วเป็นการทำงานร่วมกันภายในพรรคมากกว่าในเชิงที่ช่วยกันชี้แจงถึงนโยบายของแต่ละกระทรวง​ ส่วนนึงก็ช่วยในเรื่องการบริหารการอภิปราย​ให้อยู่ภายใต้กรอบเวลาและข้อบังคับของรัฐสภา

ส่วนในเรื่องของการที่ทางฝ่ายค้านมีพูดถึง​ส.ส.​ ที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ในทำนองว่า”ไก่อ่อน”นั้น​ ส่วนตัวไม่คิดหรือติดใจอะไร​ กลับมองว่าดีเสียอีกเพราะช่วยให้เรายิ่งรอบคอบมากยิ่งขึ้น​ การที่เราพึ่งเข้ามาทำงานในสภาเป็นสมัยแรกนั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าอ่อนหรือแข็ง เพราะ​ เชื่อว่า ส.ส.​ ที่เป็นน้องใหม่ของทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล​ ทุกท่านก็มีประสบการณ์​นอกสภากันมาทั้งนั้น เพราะ​ฉะนั้น ไม่มี “ไก่อ่อน” ในพปชร.และสภาแน่นอน

 

ด้านนายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.กรุงเทพ​มหานคร​ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)​ให้​สัมภาษณ์​ถึงแนวความคิดของ​ พล.ต.ทรงกลด​ ทิพย์​รัตน์​ ส.ส.บัญชี​รายชื่อ​และหัวหน้าพรรคพลังชาติไทย​ เตรียมผลักดัน​บ่อนเสรี​ โดยเสนอให้มีการทำประชามติในเรื่องดังกล่าว​ ว่า​ ตนต้องย้อนถามพล.ต.ทรงกลด​ ว่าการทำประชามติจะใช้้เงินจากภาษีประชาชน​ หรือเป็นงบประมาณจากนายทุนที่สนับสนุน​การทำบ่อนเสรี​ หรือจะเป็นงบประมาณส่วนตัว​ เพราะตนมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน​ อีกทั้งประเทศยังไม่มีปัญหาถึงขนาดต้องนำอบายมุขมาหากิน​

“ผมอยากย้อนถามแรงๆ​ไปยังพล.ต.ทรงกลดว่า​ ท่านได้ไปถามลูกเมียที่หมดบ้านหมดช่องหรือหมดอนาคต​ สูญเสียทั้งชีวิตหรือโดนปล้นและฆ่าตายจากการเล่นการพนัน​ ท่านกลับไปถามหรือยัง​ ท่านถามแต่นายทุนว่าธุรกิจบ่อนเสรีจะได้เงินเท่าไหร่​  และผมไม่เห็นด้วยหากจะทำประชามติโดยใช้ภาษีประชาชน​ จะคัดค้าน​หรือจะเอาชีวิตผมมาแลกกับการที่คุณจะหยุด​ ผมจะยอม” นายสิระกล่าว

เมื่อถามว่า​ การออกมาคัดค้านเรื่องนี้​ จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่​ นายสิระกล่าวว่า​ เรื่องนี้ไม่ใช่ความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล​หรือรัฐบาล​ แต่เป็นของตนเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นการรับข้อมูลด้านเดียวจากนายทุน​ ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล​ ซึ่งถ้าเรื่องดังกล่าว​เป็นเรื่องของรัฐบาล​ ก็จะต้องมีการบรรจุไว้ในร่างนโยบายของรัฐบาลแล้ว​ ทั้งนี้​ เรื่องดังกล่าว​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ ก็เคยออกมาระบุชัดเจน​ว่าหากท่านยังเป็นนายกฯอยู่​ จะไม่มีการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว​ ส่วนจะมีการพูดคุยนอกรอบเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว​หรือไม่นั้น​ ตนขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล​

เมื่อถามถึงกรณีถูกมองเป็นหนึ่งในองครักษ์พิทักษ์นายกฯ​ นายสิระกล่าวว่า​ ตนอยากเตือนสติให้ทุกคนอภิปรายภายในกรอบกฎหมาย​ เพราะขณะอภิปราย​นั้นจะมีทีมกฎหมายที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกที่ประชุมสภาฯ​ เพราะตามรัฐธรรมนูญ​ฉบับนี้​ มีข้อดีว่าหากผู้อภิปราย​ออกมาระบุข้อมูลที่เป็นเท็จ​ หรือทำให้เสียหาย​ อาจจะมีโทษถึงขั้นปลดออกจากตำแหน่งเลยก็เป็นได้​ ส่วนจะมีการเตรียมพร้อม​อย่างไร​ในการอภิปราย​นั้น​ ตนมองว่าหากมีการอภิปราย​ออกนอกกรอบ​ ส.ส.ก็มีสิทธิ​ลุกขึ้นประท้วง​ รวมทั้งหากประธานรัฐสภาเปิดโอกาสให้อภิปรายนอกกรอบ​ ทางส.ส.เองก็จะลุกขึ้นทักท้วง​ประธานรัฐสภาเช่นกัน​

เมื่อถามถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้าน​เตรียมจะอภิปราย​ถึงคุณสมบัติ​นายกฯ​ นายสิระกล่าวว่า​ ระบอบประชาธิปไตย​จะต้องมาคุยกันในรัฐสภา​ ขอเพียงอย่างเดียว​คือขอให้เป็นเรื่องจริง​ อย่าเป็นเรื่องที่ืทำให้บุคคลอื่นเสียหาย​

 


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่