หน้าแรก news นักวิชาการ ประเมิน รมต. “ภูมิใจไทย” คืบหน้าสุด! แนะ รบ.บอกตัวชี้วัด-ความคืบหน้านโยบายเหมือน “กัญชา”

นักวิชาการ ประเมิน รมต. “ภูมิใจไทย” คืบหน้าสุด! แนะ รบ.บอกตัวชี้วัด-ความคืบหน้านโยบายเหมือน “กัญชา”

0
นักวิชาการ ประเมิน รมต. “ภูมิใจไทย” คืบหน้าสุด! แนะ รบ.บอกตัวชี้วัด-ความคืบหน้านโยบายเหมือน “กัญชา”
Sharing

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงผลสำรวจของซุปเปอร์โพลที่ระบุถึงพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นพรรคที่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้มากที่สุด ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคประชาธิปัตย์ว่า เห็นด้วยว่าภูมิใจไทยมีความคืบหน้ามากที่สุด ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มเห็นหน้าตารัฐมนตรี โดยเฉพาะนโยบายกัญชาเป็นข่าวเป็นกระแสทุกวัน  ส่วนพรรค พปชร.และประชาธิปัตย์ค่อนข้างสูสีกัน เพราะรู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างยังไม่ได้ขับเคลื่อนอะไรชัดเจน เรายังไม่เห็นภาพการขับเคลื่อนชัดๆ แบบที่ภูมิใจไทยทำ อย่างมารดาประชารัฐ ค่าแรง ก็ยังไม่มีตัวจับต้องชัดๆ

ขณะที่ ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง รองคณบดี สถาบันรัฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า อยากให้ทุกพรรคดูแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ที่ลงไปในเนื้องาน เช่น เรื่องกัญชาหรือคมนาคม เป็นต้น ซึ่งทำให้คนเห็นผลงานจากการที่มีตัวชี้วัดหรือ KPI ว่า นโยบายจะเห็นผลภายในกี่วัน ดังนั้น พรรคหลักๆที่ดูกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ควรบอกให้ชัดว่าจะยกระดับราคาสินค้าให้ได้ราคานี้ ภายในไตรมาสนี้ นี่คือการบ้านที่ต้องทำ

“หลายคนเฝ้าจับตาการแบ่งงานรัฐมนตรี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่มาจากต่างพรรค เลยกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องปฏิสัมพันธ์หรือการขัดแข้งขัดขากันหรือไม่ เราเห็นรอยปริในบางกระทรวงจากการแบ่งเนื้องาน จึงต้องรอดูสปิริตของเจ้ากระทรวงด้วย”

ด้าน ผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา ระบุว่า ปัญหาสำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผลมาจากรัฐบาลผสมมาจากหลายพรรค ทำให้นโยบายหลักของแต่ละพรรคไม่สามารถทำได้ตามต้องการ เลยกลายเป็นรูปแบบของนโยบายกลาง เติมเต็มด้วยข้อเสนอของแต่ละพรรค ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามตรวจสอบ ต้องมี KPI วัดความก้าวหน้าในรอบ 3 เดือน 6 เดือน ซึ่งจะทำให้เรารู้ความก้าวหน้าของเนื้องานรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาคมโลก ไม่ใช่อยู่กันไปวันๆ ไปเปิดงานกันวันๆ

“รัฐบาล 4.0 ต้องมีตัวชี้วัด คุณต้องมีสัญญากับประชาชนว่า ราคายาง ราคาปาล์ม กี่วันกี่เดือนจะมีความก้าวหน้ามีความชัดเจน สิ่งที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้ายิ่งต้องมีตัวชี้วัดที่สั้น เพื่อให้เห็นว่าคุณทำงานคืบหน้ามากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ ลุงตู่นั่งคุมหมด ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการแบ่งงานที่แปลกประหลาดมาก อยู่บนวิธีคิดแบบอำนาจนิยม ทั้งๆที่นายกฯก็คุมงานทุกเรื่องโดยภาพรวมอยู่แล้ว นี่จึงทำให้เห็นว่าลุงตู่จะกลายเป็นคนนั่งหัวโต๊ะทุกเรื่อง แต่คนที่จัดการเรื่องเศรษฐกิจจริงๆคือคุณสมคิด ซึ่งถ้าเกิดความผิดพลาดล้มเหลวจะกลายเป็รว่าลุงตู่ต้องรับผิดชอบอย่างที่บางคนบอกว่าเป็นการวางยาหรือไม่”  ผศ.ดร.โอฬาร กล่าว


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่