นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด, รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, เลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราช อำเภอเมือง จังหวัด นครราชสีมา หาทางแก้ไขปัญหาความแออัดในโรงพยาบาล, หารือเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์, พร้อมกับพบปะ อสม. และผู้นำชุมชนเพื่อให้กำลังใจและมอบนโยบายด้านสาธารณสุข
ทั้งนี้ นายอนุทินได้ร่วมลงนามและเป็นสักขีพยานในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) บูรณาการระบบส่งต่อผู้ป่วยใน (IPD) จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 6 นครราชสีมา ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา, โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, โรงพยาบาลเดอะโกลเดนเกท, โรงพยาบาลราชสีมาฮอสพิทอล, โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา, โรงพยาบาลป. แพทย์ และโรงพยาบาลเซนต์เมรี เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาล
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องการเห็นภาพคนป่วยมานอนกับพื้น ไม่ต้องการได้ยินคำว่าคนไข้อนาถา นี่คือประเทศไทย คนไทย ต้องได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม เป็นเป้าหมายของการทำงาน โรงพยาบาลที่มีความแออัด ก็ต้องกระจายคนป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นได้ ยินดีที่เห็นความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลต่างๆ
อีกเรื่องที่ต้องการทำให้สำเร็จคือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ทางการแพทย์ อสม.ต้องใช้เทคโนโลยีอย่างชำนาญ อยู่ในพื้นที่ ต้องใช้เครื่องมือหารือเรื่องการรักษากับแพทย์ได้ ตนได้ดึง พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีต รองประธาน กสทช. มาช่วย
ส่วน อสม.ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดูแลคนป่วยขั้นปฐมภูมิ ลดจำนวนคนไข้ในโรงพยาบาลได้ ถ้าทำสำเร็จ จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม
จากนั้น นายอนุทิน และคณะผู้บริหาร ได้รับมอบยาพื้นบ้านที่มีส่วนผสมของกัญชา จากสถาบันมาตรฐานพันธุ์กัญชาไทยทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบต่อให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สำหรับใช้พัฒนางานวิจัยต่อไป ก่อนตรวจเยี่ยมคลินิกกัญชาของโรงพยาบาล และเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา
โดยกิจกรรมที่น่าสนใจคือการเยี่ยมชมคลินิกกัญชาในโรงพยาบาลมหาราช ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 นายอนุทิน กล่าวว่า นี่คือความคืบหน้าของนโยบายกัญชาทางการแพทย์ เพราะมั่นใจว่ากัญชามีประโยชน์ และกระทรวงสาธารณสุข ต้องนำประโยชน์มาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วย ถือเป็นภารกิจของกระทรวง
สำหรับคลินิกดังกล่าว จะใช้ยาจากองค์การเภสัชกรรม ที่ทยอยแจกจ่ายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ การจ่ายยาต้องเป็นไปตามใบสั่งของแพทย์ ส่วนคนจ่ายยาต้องเป็นเภสัชกรที่ได้รับการอบรมจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
“มีข่าวดีคือ สูตรยาหมอพื้นบ้าน ถ้ามีกัญชาเป็นส่วนผสม และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ตรวจสอบแล้วว่ามีประโยชน์ ไม่มีพิษภัย ก็จะเป็นทางเลือกในการรักษาประชาชน”
นายอนุทิน ยังพูดถึงกัญชาของกลางจาก ปปส.ที่จะนำมาสกัดเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ว่า การนำมาใช้ประโยชน์ ต้องผ่านกระบวนการนำสารตกค้างออกไปก่อน นโยบายกัญชาทางการแพทย์ มีเป้าหมายคือเอาสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ขึ้นมาบนดิน ล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไป
ขอย้ำว่าการใช้กัญชา ต้องเป็นไปเพื่อการรักษาโรคเท่านััน และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ที่สำคัญ แม้ประเทศไทยจะยินยอมให้ใช้สารสกัดน้ำมันกัญชาได้บ้าง แต่อย่านำออกนอกประเทศ เพราะหลายประเทศกัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย