นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงประเด็นคดีความของพรรค และข่าวลือการยุบพรรคอนาคตใหม่ว่า วันนี้คดีความพรรคอนาคตใหม่ มียอดรวบคดีทั้งหมด 22 รายการ ที่เข้าสู่องค์กรต่าง ทั้งรายบุคคล และทั้งพรรคเรื่องที่ถูกจับตาคือ เรื่องหุ้นวี-ลัค ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นอกจากนั้น ยังมีคดีอิลลูมินาติ ที่มีชายนายหนึ่งไปร้องศาลรัฐธรรมนูญที่อ้างว่า นายธนาธร และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ใช้เสรีภาพในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และคดีที่นายธนาธรให้พรรคกู้เงิน อยู่ในชั้นของกกต. การสืบสวน สอบสวน และไต่สวน
“ทั้งสามคดีนั้น หากมองอย่างเลวร้ายที่สุด เรื่องหุ้นวี-ลัค ของนายธนาธร ไปได้ไกลแค่ การหลุดจากการเป็น ส.ส. คดีอิลูมินาติ ไปได้ไกลแค่ ศาลสั่งให้งดใช้เสรีภาพที่เป็นการกระทำในการล้มล้างระบอบประชาธิไตย และคดีเรื่องนายธนาธรให้พรรคกู้เงิน ไปได้ไกลแค่ ต้องนำเงินไปคืน สรุปคือ ทั้งสามคดีไม่เกี่ยวกับการยุบพรรคเลย และเราจะสู้คดีอย่างถึงที่สุด”
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ข่าวลือก็มาดังกระหึ่มอีกจากการวิเคราะห์ของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏกว่า กิจกรรมเจอดาวสภาที่จัดนั้นไม่เป็นข่าว มีแต่ข่าวการยุบพรรคอนาคตใหม่กลับดังขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ตนก็ขอบคุณในความห่วงใย แต่ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่เรามีแนวทางของ
“หากผมเป็นท่าน เมื่อได้ทราบข่าวแบบนี้เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อนบ้าน ผมจะเข้าไปบอกตรงๆ ไม่ใช้กิจกรรมแบบนี้แถลงข่าวลือ เพราะสมาชิกพรรคผมก็จะเสียความเชื่อมั่น แล้วก็ต้องมาแก้ปัญหาทั้งวัน การสื่อสารความหวังดี ให้มาบอกตนตรงๆ เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านกัน ไม่ทราบว่าความหวังดีนั้น คุณต้องการพูดกับใคร ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผมไม่เคยวิเคราะห์สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย แบบที่พรรคเพื่อไทยทำกับพรรคอนาคตใหม่ อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเหนียวแน่นอยู่” นายปิยบุตรกล่าว
ขอบคุณข้อมูล : ไทยโพสต์