หน้าแรก news “เจษฎ์” ตีความ “ไพบูลย์” สิ้นสภาพความเป็น ส.ส. เตือน พปชร.ระวังรู้เห็นเป็นใจการ “เผาบ้านเอาประกัน” ล่าสุด “ไพบูลย์” จ่อฟ้องหมิ่น

“เจษฎ์” ตีความ “ไพบูลย์” สิ้นสภาพความเป็น ส.ส. เตือน พปชร.ระวังรู้เห็นเป็นใจการ “เผาบ้านเอาประกัน” ล่าสุด “ไพบูลย์” จ่อฟ้องหมิ่น

0
“เจษฎ์” ตีความ “ไพบูลย์” สิ้นสภาพความเป็น ส.ส. เตือน พปชร.ระวังรู้เห็นเป็นใจการ “เผาบ้านเอาประกัน” ล่าสุด “ไพบูลย์” จ่อฟ้องหมิ่น
Sharing

รศ.ดร.เจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ริงไซด์การเมือง  เมื่อวันที่ 27 ส.ค.62 ภายหลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้ พรรคประชาชนปฏิรูป ที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นหัวหน้าพรรค สิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมืองว่า ความเห็นส่วนตัวจากการตีความตามกฎหมาย เชื่อว่านายไพบูลย์ ต้องสิ้นสภาพความเป็น ส.ส. เนื่องจาก มาตรา 91 วรรคท้าย พ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุไว้ชัดเจนว่า “เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมาชิกที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ถือว่าการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองตามมาตรานี้ เป็นการถูกยุบพรรคการเมือง” ทั้งนี้การจะถูกคุ้มครองจะต้องเกิดกรณีที่เป็นผลลบ ผลร้ายแก่สมาชิก และบทบัญญัติดังกล่าวมีขึ้นเพื่อช่วยสมาชิกในกรณีที่พรรคการเมืองพยายามครอบงำความเป็นอิสระ ส.ส.ด้วยการขู่ยุบพรรค แต่กรณีของนายไพบูลย์เป็นเสมือนการควบรวมพรรค หรือการย้ายพรรคนั่นเอง

“สำหรับผมจึงเชื่อว่ามาตรา 91 วรรคท้าย ไม่ได้ให้ประโยชน์กับคุณไพบูลย์ ถ้าคุณไพบูลย์ทำไปปั๊บ ผมถือว่าสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.ไปเลย”

รศ.ดร.เจษฎ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐว่า ตนเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าเป็นการเผาบ้านเอาประกัน  ใครก็แล้วแต่ที่รู้เห็นเป็นใจกับการเผาบ้านเอาประกันของคุณไพบูลย์ก็ย่อมต้องมีความผิด ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐซึ่งได้ประโยชน์เต็มๆ ในกรณีอาจได้ ส.ส.เพิ่ม ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

ล่าสุด แนวหน้า รายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ได้เปิดเผยว่า ด้วยปรากฎว่า นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ให้สัมภาษณ์ออกเผยแพร่ทางนิวทีวี ช่อง 18 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 และให้สัมภาษณ์ออกเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 และให้สัมภาษณ์อีกครั้งออกเผยแพร่ทางรายการตอบโจทย์ ช่องไทยพีบีทีเอส เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 โดยทั้ง 3 ครั้ง นายเจษฏ์ได้ให้สัมภาษณ์โดยมีข้อความที่มีการใส่ความ กล่าวหาให้ผู้ชมรายการทีวีและสื่อออนไลน์ เข้าใจผิดว่า นายไพบูลย์ ซึ่งได้นำมติคณะกรรมการบริหารพรรค 16 คน ไปยื่นจดแจ้งเลิกพรรค นั้นบิดเบือนข้อเท็จจริงให้เข้าใจว่า “นายไพบูลย์ยื่นยุบพรรคตัวเอง เป็นการเผาบ้านตัวเองเพื่อเอาประกัน” และถ้อยคำอื่นๆ ที่ผิดกฎหมาย การกระทำดังกล่าวทั้ง 3 ครั้ง ของนายเจษฎ์ เป็นการกระทำการไส่ความโดยวิธีโฆษณาเผยแพร่ในสื่อทีวี 2 ช่อง และสื่อออนไลน์ 1 แห่ง ทำให้นายไพบูลย์ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การกระทำทั้ง 3 ครั้งของนายเจษฏ์ จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า เพื่อประโยชน์ต่อการรักษาหลักการแห่งกฎหมาย จึงจะฟ้องดำเนินคดีกับนายเจษฎ์ ไปยังศาลอาญาในความผิด ฐานหมิ่นประมาทโดยวิธีโฆษณาทางทีวีและป่าวประกาศในสื่อโซเชียลมีเดีย ในเร็วๆ นี้


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่