เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลในขณะนี้ โดยระบุว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังมีความเชื่อผิดๆ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จริงอยู่ที่ว่าการออกมาตรการในลักษณะของการกระตุ้นบริโภค เช่น แจกเงินให้ออกไปท่องเที่ยวจะก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็ว แต่การรีบเร่งออกมาตรการโดยไม่พุ่งเป้า สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์จะกระจุกตัว เช่น เกณฑ์คนที่ได้รับสิทธิ์ 10 ล้านคนเป็นใครก็ได้ที่อายุเกิน 18 ปี จังหวัดที่จะใช้จ่ายเป็นจังหวัดใดก็ได้ที่ไม่ใช่ภูมิลำเนา และจะใช้จ่ายกับร้านค้าและโรงแรมใดก็ได้ที่ร่วมโครงการ สุดท้ายจะมีแค่ไม่กี่ร้านค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการในลักษณะนี้ได้ ผลประโยชน์จะไม่ได้ตกกับคนในวงกว้างเท่าไหร่ แต่จะตกกับภาคธุรกิจระดับกลางถึงระดับใหญ่ขึ้นไป และจะไม่เกิดผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเม็ดเงินส่วนหนึ่งสามารถเปลี่ยนจากงบกระตุ้นการบริโภคมาเป็นงบลงทุน ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้ดีขึ้น และการใช้เม็ดเงินลงทุนสามารถทำให้เกิดการจ้างงานในต่างจังหวัดได้ด้วย ผลจากการลงทุนจะอยู่กับท้องถิ่นด้วย ไม่ใช่เม็ดเงินที่จะหายไปเหมือนการบริโภค เม็ดเงินที่มีอยู่น้อยควรใช้อย่างคุ้มค่าให้ถูกจุดมากกว่า เปรียบกับกระสุนที่มีอยู่น้อย ควรยิงให้ตรงเป้าอย่าใช้ยิงกราด
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้มีความเชื่อมั่นต่อ ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ว่าจะต่างไปจากชุดก่อนหน้านี้มากนัก เพราะไม่ได้มีชุดความคิดทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันออกไปเลย เป็น ครม.ชุดเศรษฐกิจที่ยังมีความเชื่อว่าหากเรากระตุ้นเศรษฐกิจในระดับบน ให้คนรวยรวยขึ้นแล้วสักพักสถานการณ์ของคนจนก็จะดีขึ้นเอง ตนกลับเห็นว่าแต่ละภาคเศรษฐกิจต้องได้รับการดูแล โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ต้องได้รับการใส่ใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่าอาจจะมีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมาช่วยเหลือเกษตรกรด้วยมาตรการประกันราคา ที่น่าจะช่วยทำให้เกษตรกรสามารถพยุงตัวเองผ่านวิกฤตินี้ไปได้ในระยะสั้นและระยะกลาง แต่ปัญหาเรื่องภัยแล้งจะส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต มาตรการประกันราคาจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีผลผลิตออกมา เพราะเป็นการจ่ายตามจำนวนผลผลิต
“ต้องวิงวอนไปยังพรรคร่วมรัฐบาลและ ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ว่า ช่วยหามาตรการที่จะช่วยให้เงินในกระเป๋าของพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ให้มันลดลงไปมากกว่านี้ แล้วก็เริ่มมองหาหนทางที่จะช่วยแก้ปัญหาในระยะกลางและระยะยาวมากขึ้น เอาจริงๆแล้ว เราไม่ได้เพิ่งจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในวันนี้ วิกฤติเศรษฐกิจมันเกิดขึ้นมาได้สักประมาณ 5 ปีแล้ว มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องกระตุ้นในระยะสั้นอย่างเดียวอีกต่อไป ควรเริ่มหาวิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหาในระยะกลางและระยะยาวได้แล้ว ขอให้ใช้เม็ดเงินภาษีของเราอย่างคุ้มค่า แล้วก็ต้องบอกว่าขอให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น อย่าเพิ่งตื่นเต้นกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่รัฐบาลกำลังจะออกมาแล้วใช้จ่ายอย่างเพลิดเพลิน เพราะว่าวิกฤติของจริงอาจกำลังจะเกิดขึ้น ก็ขอให้ทุกคนเตรียมตัวรับมืออย่างรู้เท่าทัน” ศิริกัญญา กล่าว