นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การบริหารงานต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงสัปดาห์นี้ว่า เป็นนโยบายที่ประชาชนเห็นตรงกันว่าไม่ได้เรื่อง มือไม่ถึง รังแต่จะดึงเศรษฐกิจประเทศดิ่งเหว โดยเฉพาะการประกาศขูดรีดภาษีความหวาน ความเค็มกับประชาชนก็ยิ่งแสดงให้เห็นธาตุแท้ของรัฐบาลแล้วว่าวันนี้บักโกรก ใส้เแห้ง ถังแตก ตูดขาด การออกมาแก้ตัวว่าเก็บภาษีความหวาน จะช่วยควบคุมโรคเบาหวานให้กับประชาชน แต่ความจริงคือการรีดภาษีได้อีกเกือบ 4,000 ล้านบาท ตนไม่เข้าใจว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีฝีมือแค่นี้หรือคิดว่าประชาชนเขากินหญ้า การควบคุมโรค การรณรงค์เรื่องสุขภาพเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่รีดภาษีแล้วจะทำให้คนเป็นเบาหวานลดลง ช่างคิดได้
นายจิรายุกล่าวอีกว่าเห็นแล้วว่า 5 ปีแห่งความสูญเปล่าและคาดหวังอะไรไม่ได้กับรัฐบาลชุดนี้ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ประชาชนรู้สึกได้ว่าย่ำแย่กันทั้งประเทศ และพูดผ่านผลการสำรวจ(โพล)ที่ตกต่ำทุกตัวแต่กลับมีคนในรัฐบาลไม่กี่คนที่ออกมาต่อว่าประชาชนว่า “โพลมั่ว ไม่จริงเศรษฐกิจดีมากในขณะนี้ “ทำให้ยิ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีฝีมือ “เหลาเหย่ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ” ยังมีนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดได้ วันนี้ รมต.กระทรวงท่องเที่ยวฯจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้มีวันหยุดเพิ่มเติมเฉพาะข้าราชการในเดือนตุลาคมถึง 2 วันฟรีโดยไม่คิดเป็นวันลาเพื่อให้ข้าราชการไปท่องเที่ยวในวันหยุด
ตนอยากถามว่ารัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวว่าคิดได้ยังไง เพราะข้าราชการวันนี้เงินเดือนก็น้อยอยู่แล้ว เมื่อมีวันหยุดก็จะหยุดพักผ่อนและเก็บเงินเอาไว้ ยิ่งในภาวะข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ใครจะมีกระจิตกระใจไปเที่ยว
ปี 2562 มีวันหยุดราชการในวันสำคัญเกือบ 30 วันยังไม่นับรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แบบต่อเนื่อง คนเสียประโยชน์ก็คือประชาชนที่ต้องไปติดต่อราชการ
ถ้ารัฐมนตรียังคิดได้เพียงแค่นี้ตนว่าประเทศไทยจะลำบากเพราะการบริโภคหรือการท่องเที่ยวในประเทศจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เกิดการลงทุนประชาชนมีรายได้สูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ดี ไม่ใช่ภาวะข้าวของแพงเหมือนเช่นในขณะนี้ เห็นนโยบายแต่ละชุดของรัฐบาลชุดนี้ออกมาบอกได้คำเดียวว่า”เพลีย”ซึ่งตนจะขอยื่นกระทู้ถามสดรัฐบาลในเรื่องนี้ว่าคิดได้อย่างไร