ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นร่างพระราชบัญญัติ 12 ฉบับ ซึ่งภูมิใจไทย ยื่นให้สภาพิจารณา ผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น มีร่างเกี่ยวกับนโยบายกัญชา 6 ต้น คือ
ฉบับที่ 1 ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..)พ.ศ. ….โดย มีเหตุผลและความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ไว้ว่า พืชยาเสพติด เป็นพืชที่สามารถนำไปผลิตเวชภัณฑ์ต่างๆ ได้ ซึ่งในหลายประเทศอนุญาตให้ปลูก ผลิต และจำหน่ายได้ จึงสมควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสามารถปลูกพืชยาเสพติดเพื่อการพัฒนาเป็นยารักษาโรค เพื่อเป็นประโยชน์แก่การรักษาทางการแพทย์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้มีการผลิต จำหน่าย หรือส่งออกเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการเกษตรกรรมโดยให้สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ
โดยที่กฎหมายฉบับนี้ มีทั้งหมด 5 มาตรา ประเด็นสำคัญคือการเพิ่มบทนิยาม คำว่า “สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย” เป็นหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย การผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก การบริหารจัดการ พืชยาเสพติดตามอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961และ ค.ศ.1972 ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
มีแก้ไขเพิ่มเติมให้บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยสามารถปลูกกัญชา เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เพื่อการรักษาทางการแพทย์ ผลิต จำหน่ายได้ไม่เกิน 6 ต้นต่อครอบครัว ภายใต้การควบคุม กำกับดูแล และการบริหารของสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย
และแก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย ในการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเทศไทยได้
ฉบับที่ 2 ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทยพ.ศ. ….โดยมีเหตุผลว่า ปัจจุบันได้มีการสนับสนุนให้มีการศึกษาและส่งเสริมให้ปลูกพืชยาเสพติดซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาโรคได้ ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจและนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น จึงกำหนดหน่วยงานของรัฐขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตเรื่องการปลูก ผลิต จำหน่ายหรือส่งออก ให้มีการควบคุมและกำกับดูแลให้สอดคล้องกับอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961และ ค.ศ.1972ขององค์การสหประชาชาติที่ประเทศไทยไทยเป็นรัฐภาคี
มีเนื้อหาสาระคือการให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ 6 ต้น เพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์ ภายใตการควบคุมของสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล