หน้าแรก news ใจป้ำ ! “อนุทิน” พร้อมเทงบดูแลสุขภาพคนไทย เผย จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำ!ทุกฝ่ายทำเต็มที่

ใจป้ำ ! “อนุทิน” พร้อมเทงบดูแลสุขภาพคนไทย เผย จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำ!ทุกฝ่ายทำเต็มที่

0
ใจป้ำ ! “อนุทิน” พร้อมเทงบดูแลสุขภาพคนไทย เผย จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำ!ทุกฝ่ายทำเต็มที่
Sharing

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 62 ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุขได้จัดงาน “วันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก และวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วย และบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย” มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงาน และมอบประกาศนียบัตรสำหรับโรงพยาบาลที่ประกาศนโยบาย 2P Safety ประจำปี 2562 จำนวน 208 แห่ง พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ประเทศไทยก้าวสู่ระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเพื่อทุกคน”

นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจัดงานวัน Thailand Patiet and Personel Safety Day เป็นครั้งที่ 3 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีการพัฒนาระบบการให้บริการด้านสุขภาพที่สอดคล้องกับทิศทางโลก การที่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เป็นการพัฒนาให้เจ้าหน้าที่ด้านการสาธารณสุข และผู้ป่วยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อให้ระบบสาธารณสุขไทยมีคุณภาพและมีความปลอดภัยแก่ทุกคน

พัฒนาการด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ถือว่าได้รับการพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ วันนี้ สื่อบางฉบับยกให้อยู่ในอันดับ 6 ของโลก เป็นเรื่องน่ายินดี แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น

“ถ้าขาดงบเรื่องการดูแลสุขภาพคนไทย ขอยืนยันว่า ที่สุดแล้ว หามาได้แน่นอน เพราะรัฐบาลต้องดูแลคุณภาพชีวิตคนไทย เมื่อวานนี้ มีการบอกว่างบ สปสช.ถูกตัด แต่เมื่อต้องการใช้ ตอนนี้ เอางบส่วนนั้นกลับมาได้แล้ว เรื่องน้ำท่วมอุบลราชธานี ทำเต็มที่ งบไม่พอ ต้องหามาเติม คุณภาพชีวิตของคนไทยสำคัญที่สุด”

ด้าน นพ. กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางสาธารณสุขปีพ. ศ. 2561-2564 โดยมีเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางสาธารณสุข

เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการร่วมกันขับเคลื่อนและยกร่างแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุ (2p Safety) ของประเทศไทยในระยะเวลา 4 ปี ปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่สมัครใจประกาศเป็นโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่ายและโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นโรงพยาบาล 2P Safety Hospital แล้วทั้งสิ้นจํานวน 376 แห่ง

ภายในงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมประกาศเจตนารมย์ขับเคลื่อนเรื่อง Patiet and Personel Safety Day ร่วมกับ Dr.Daniel A. Kertesz ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และ 16 องค์กรเครือข่ายด้านสาธารณสุข

สำหรับงานในวันนี้ มีบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 800 คน ผู้สื่อข่างรายงานด้วยว่าองค์การอนามัยโลก กำหนดให้ 17 กันยายนของทุกปีเป็น “วันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก” (Global Day of Patient Safety) ในขณะที่ประเทศไทยได้กำหนดให้เป็น “วันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย” (Thailand Patient and Personnel Safety Day) เพื่อเป็นการให้ความสำคัญทั้งผู้ป่วยที่มารับบริการและบุคลากรสาธารณสุขซึ่งเป็นผู้ที่มีโอกาสเกิดความไม่ปลอดภัยในด้านต่างๆ จากการทำงานในโรงพยาบาลด้วย

ต่อมา นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า สถานการณ์ล่าสุด สถานพยาบาลเกือบทั้งหมด เปิดให้บริการได้ตามปกติ จะมีเพียง รพ.สต.ที่อุบลราชธานี 5 แห่งที่ยังติดขัดปัญหา ส่วนเรื่องเวชภัณฑ์ขอย้ำว่าจัดสรรให้ทุกพื้นที่ เพียงพอต่อความต้องการ โดยสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขต้องดูแลหลังจากนี้ คือสุขภาพจิตใจของประชน เพราะประสบทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม แบกรับความกดดันอย่างหนักหนาสาหัส ซึ่งกำชับให้อธิบดีกรมสุขภาพจิตจัดการอยู่ในพื้นที่ อย่าเพิ่งกลับกรุงเทพฯ ตอนนี้ เรามีหน่วยดูแลเคลื่อนที่เร็วหรือ “เอ็มแคท” ที่จะเข้าไปบรรเทาปัญหาเรื่องความเครียด ส่วนในรายที่มีปัญหามากจริงๆ ประมาณ 15-20 ราย ให้อธิบดีเข้าไปจัดการรายคน ห้ามมีข่าวร้ายเด็ดขาด

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ยินดีเห็นคนไทยมีน้ำใจ แต่ขอวิงวอนทำความเข้าใจว่าทุกคน ทุกฝ่าย ทำงายอย่างเต็มที่ อย่ามองว่าใครทำมากกงาน้อยกว่า แล้วไปเปรียบเทียบ วิพากษ์วิจารณ์คนทำงาน ทั้งนี้ ครม.บางท่านไม่ได้ลงพื้นที่ เพราะท่านน่าจะตระหนักว่าการลงพื้นที่ จะเป็นภาระกับข้าราชการต้องมาต้อนรับ แทนที่จะเอาเวลาไปดูแลประชาชน และในความเป็นจริง การบริหารจากส่วนกลางก็มีประะสิทธิภาพ และไม่ลำบากเจ้าหน้าที่ ทั้งยังสั่งการได้รวดเร็วกว่าด้วย

“ในเรื่องของกัญชา องค์การเภสัชกรรมแจกน้ำมันกัญชาให้แพทย์พยาบาลนำไปใช้กับผู้ป่วย รับประกันว่าของมีคุณภาพอยู่แล้ว ไม่มีสารปนเปื้อน และผลวิจัยก็ยืนยันว่าบรรเทาอาการต่างๆได้จริง ให้มองเป็นการรักษาทางเลือกที่ใช้ได้อย่างมั่นใจ” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งดูแลสุขภาพและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี

ล่าสุด (17 ก.ย.62) สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับโรงพยาบาลอำนาจเจริญ และสมาคมกู้ภัยอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ตั้งศูนย์หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ (MERT/MCATT) จังหวัดอำนาเจริญ ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ที่ลานปั้มน้ำมัน ปตท.ทัพไทย

 


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่