ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต ให้ความเห็นถึง การเมืองไทย ปี 61 ผ่านรายการ Ringsideการเมือง ว่า หลายฝ่ายเชื่อ การเลือกตั้งต้องเกิดในปี 2561 แต่โดยส่วนตัว ยังไม่เห็นสัญญาณของการเลือกตั้งเลย กลับกันสัญญาณของการ “เลื่อน” ดูเหมือนจะชัดกว่าเสียอีก ทั้งเรื่องของ
1.ความปรองดอง 2. กฏหมายลูก ที่สามารถใช้เป็นข้ออ้างเลื่อนการเลือกตั้งไปได้เรื่อย โดยอ้างว่าบ้านเมืองยังไม่ปรองดอง ต้องแก้ไขกฎหมายลูกเพิ่มเติม ทั้งยังมีเรื่อง 3.การผ่อนปรนของนานาชาติ ที่เข้ามาทำมาค้าขายด้วย เท่ากับแรงบีบให้เลือกตั้งน้อยลงไปแล้วส่วนหนึ่ง
“ที่สำคัญคือ 4.รัฐบาลทำโครงการประชารัฐออกมามากมายเหลือเกิน เขาจำเป็นต้องหวังผล จากสิ่งที่เขาทำลงไป แล้วจึงจัดการเลือกตั้ง เป็นไปไม่ได้เลย ที่เขาจะหว่านพืช แล้วให้คนอื่นมาเก็บเกี่ยวผล”
ต่อคำถามว่า พลเอกประยุทธ์ จะเข้ามาทำงานการเมืองในอนาคตอย่างไร ผศ.วันวิชิต กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญ ฉบับ 60 ไม่ได้บังคับว่านายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการเลือกตั้งสถานเดียว มีเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้สามารถมีนายกรัฐมนตรีมาจากคนนอกได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลงสมัครเลือกตั้งเอง แต่จะมาโดยตำแหน่งนายกคนนอก
เมื่อถามถึงคะแนนนิยมของพลเอกประยุทธ์ นักวิชาการด้านความมั่นคง ตอบว่า การบริหารงานโดนคณะคสช.ที่ผ่านมา 3 ปี นำไปสู่การลดความชื่นชอบในตัวพล.อ.ประยุทธ์ จากการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ไม่ทันท่วงที อาทิ การปฎิรูปการเมือง การปฎิรูปตำรวจ อีกทั้งยังมีการตั้งคำถามจากสังคม ถึงคนร่วมรัฐบาล อย่าง กรณีนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วนบทบาทของพล.อ.ประยุทธ์จะได้ไปต่อหรือไม่นั้นให้จับดูในช่าง 1 ปีหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับผลงานและการบริหารที่ออกมาเป็นรูปธรรม แต่หากผลงานไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ก็ต้องพิจารณาบทบาทต่อไป ตอนนี้เหลือเวลาไม่มาก จากการที่ได้ประกาศเลือกตั้งในปี61ตามโรดแมป เชื่อว่ามีหลายภาคส่วนเฝ้าจับตาดูอยู่
ในประเด็นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ พบปะกลุ่มการเมือง ผศ.วันวิชิต กล่าวว่า ถ้ามองในมุมทางการเมืองคือการเดินสายหาเสียงหรือการสร้างพันธมิตรใหม่เพิ่ม นี่คือการแสวงหาพันธมิตรของท่านนายก เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการในอนาคต