นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงฯ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงฯ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง และนายกมล หมั่นทำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ในจังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ให้การต้อนรับ ในวันที่ 16 กันยายน 2562
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะ Checking Point ในจังหวัดสิงห์บุรี ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้แก่ จุดตรวจอินทร์บุรี (ขาออก) ทางหลวงหมายเลข 32 ซึ่ง ขบ. ร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และจุดตรวจปั๊ม ปตท.วิบูลย์พาณิชย์ (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 32 อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการนำรถเข้าตรวจความพร้อมบริเวณจุดตรวจทั้ง 2 แห่ง ตามที่ได้สั่งการให้ ขบ. ดำเนินการตั้งจุดตรวจรถโดยสารทุก ๆ ระยะทาง 90 กิโลเมตร ทั่วประเทศ โดยให้ตรวจความพร้อมของรถ พนักงานขับรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทางอย่างต่อเนื่อง ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2562 โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องตรงตามประเภท คุมเข้มชั่วโมงการทำงานของพนักงานขับรถ และตรวจความพร้อมของรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย อาทิ ตรวจล้อรถโดยสาร ระบบไฟสัญญาณต่าง ๆ กระจก ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก และระบบการเชื่อมต่อ GPS โดยจุดตรวจรถโดยสาร เป็นการบูรณาการระหว่าง ขบ. กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ บขส. ร่วมกันควบคุม กำกับ ดูแลสภาพตัวรถโดยสารและพนักงานขับรถ ให้มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 – 20 กันยายน 2562 มีรถโดยสารเข้าตรวจ ณ จุดตรวจทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 53,411 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารประจำทาง 50,513 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) 289 คัน กรณีรถโดยสารไม่นำรถเข้าตรวจความพร้อม ณ จุดตรวจรถโดยสาร จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 31 (10) หรือตามมาตรา 326 แล้วแต่กรณี ขบ. จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้เข้ารับการตรวจ หากกระทำผิดซ้ำจะพิจารณาโทษสูงสุดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับความบกพร่องของรถที่ตรวจพบ เช่น ระบบห้ามล้อ ควันดำ ระบบไฟชำรุด ส่วนพนักงานขับรถมีความบกพร่อง เช่น ชั่วโมงการทำงานเกิน ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด และระบบ GPS ไม่เชื่อมต่อ เป็นต้น ขณะที่ผลจากการสอบถามความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อมาตรการตรวจรถโดยสาร พบว่า ประชาชนพึงพอใจ 52,686 คน ไม่พอใจ 725 คน ทั้งนี้ มาตรการตรวจรถโดยสาร เป็นการกระตุ้นผู้ประกอบการขนส่งให้ควบคุม กำกับ ดูแลความปลอดภัยของรถ อุปกรณ์ส่วนควบ และการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากรถโดยสารสาธารณะ โดยหลังจากนี้จะรวบรวมผลการดำเนินงานรวมทั้งปัญหาอุปสรรค เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงานให้เหมาะสมต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มข้นรถโดยสาร ซึ่งปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง และต้องขอบคุณความร่วมมือจากทางจังหวัดที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ส่วนข้อติดขัดด้านต่าง ๆ จะแก้ไขต่อไป โดยการปฏิบัติงาน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นที่พอใจและน่าชื่นชม แต่ยังต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะลดลงเป็นศูนย์ ซึ่งจากการตั้งจุดตรวจเข้มข้นมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงจากเดิมเหลือ 0.4 ครั้งต่อวัน และจะขยายผลดำเนินการกับรถบรรทุก รวมทั้งรถประเภทอื่นในระยะต่อไป ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเข้าใจมาตรการของกระทรวงฯ ในครั้งนี้ แม้จะทำให้เพิ่มเวลาการเดินทางไปอีกประมาณ 30 นาที แต่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นและประชาชนถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ