นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่มีนัดหมายของสำนักงานอัยการในวันนี้ ตนได้มอบอำนาจให้นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ เเละ นายยอดชาย ศีลนำสุข ทีมทนายความให้เดินทางมาฟังคำสั่ง
ซึ่งภายหลังฟังคำสั่งในกรณีคดีของอดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศฯ กรณีโพสเฟสบุ๊ค ภาพพลเอกประยุทธฯ ในนิตยสาร Time กับข้อความ ห้ามจำหน่ายในประเทศไทย และภาพการดูด ส.ส. 4.0 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.61 ทางพนักงานอัยการได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 29 ต.ค.2562
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่อัยการมีคำสั่งไม่สั่งฟ้อง ส่วนในคดีของตนที่เลื่อนการออกคำสั่งออกไปนั้น ก็อยากให้สำนักอัยการได้พิจารณาว่าในเรื่องการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นเรื่องหน้าปกนิตยสารไทม์ที่บอกว่าไม่มีจำหน่ายและขณะนั้นก็ไม่มีจำหน่ายจริง ไม่น่าจะเป็นปัญหา เทียบไม่ได้เลยกับเรื่องที่รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้ออกมาแฉและร้องเรียนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เรื่องการสั่งให้ลูกน้องในสังกัดลงข่าวข้อมูลเท็จเพื่อให้ร้ายพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลโดยใช้สื่อของรัฐ และมีหลักฐานการสั่งงานในไลน์กลุ่มของผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ชัดเจน โดยลูกน้องก็ได้ดำเนินการนำข่าวที่น่าจะเท็จลงและนำมารายงานอธิบดีในไลน์กลุ่มนี้ด้วย โดยมีหลักฐานชัดเจนอีกเช่นกัน และสื่อก็ได้ตรวจสอบว่ามีข่าวเท็จดังกล่าวปรากฏจริงในสื่อของรัฐ และเรื่องนี้ได้มีการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง ปปช. และ กกต. แล้ว โดยน่าจะต้องมีการดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิด ส่วนเรื่องการดูด สส นั้น ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีการพยายามดึง 14 สส จากพรรคเพื่อไทยเข้าฝ่ายรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ดังนั้นการพูดถึงการดูด ผู้สมัคร สส ซึ่งยังไม่ได้เป็น สส เลยในขณะนั้น จะผิดได้อย่างไร ในขณะที่มีการดูด สส ที่ชนะการเลือกตั้งแล้วในขณะนี้ จึงอยากให้สำนักอัยการ และ ประชาชนทั่วไปได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ และ ประเทศนี้ควรมีหลักเกณฑ์อย่างไร