เมื่อวันที่ 4 ต.ค.เวลา 14.00 น.นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ กอรมน.ภาค 4 แจ้งความดำเนินคดีอาญามาตรา 116 กับบุคคลรวม 12 คน หลังร่วมเวทีเสวนา 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน “พลวัฒแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่ลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา มีเนื้อหาบิดเบือนข้อเท็จจริง มีลักษณะปลุกปั่นยุยงให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดจะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ว่า ในส่วนการดำเนินคดีอาญาก็ว่ากันไป แต่ตนขอเรียกร้องไปที่ 5 ส.ส. ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวันมูหะมัด นอร์มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ลาออกจากความเป็นส.ส.ทันที เพื่อรับผิดชอบต่อพฤติกรรมละเมิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไล่ตั้งแต่หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ข้อ 6 ที่บัญญัติว่า “ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐและควมสงบเรียบร้อยขงประชาชน และ หมวดสองมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 15 ที่บัญญัติว่าต้องให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชนหรือสื่อมวลชนอันอยู่ในความรับผิดชอบของตน ถูกต้องครบถ้วนและไม่บิดเบือน โดยในหมวด 4 ว่าด้วยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ระบุไว้ในข้อ 27 ชัดเจนว่า การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด 1 ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง
“ในส่วนของ 5 ส.ส.ร่วมในเวทีเสวนาที่นางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ โดยไม่มีการทักท้วง เท่ากับรู้เห็นเป็นใจให้มีการแก้รัฐธรรมนูญมาตรานี้ จึงเข้าข่ายละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในหมวด 1 ข้อ 6 พฤติกรรมของคนเหล่านี้สะท้อนว่าไร้สำนึกในความเป็นชาติ ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นคนไทยด้วยซ้ำ” นายสิระ กล่าว