นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่กอ.รมน.แจ้งความดำเนินคดีมาตรา 116 กับบรรดาหัวหน้าพรรคและนักวิชาการที่ไปรณรงค์ในการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จังหวัดปัตตานีนั้นถือเป็นความพยามยามในการรักษาอำนาจของคณะผู้ก่อการยึดอำนาจ เพราะเป็นที่ยอมรับว่าผู้มีอำนาจมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าในการที่จะสืบทอดอำนาจและส่งต่ออำนาจผ่านทางรัฐธรรมนูญ แม้อำนาจของคสช.จะหมดไปตามรัฐธรรมนูญ แต่คณะผู้มีอำนาจมีการเตรียมการไว้ โดยส่งต่ออำนาจคสช.ไปที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในหรือ กอ.รมน. พร้อมกับมีการเพิ่มอำนาจและงบประมาณให้กับกอ.รมน.เพื่อดำเนินการได้อย่างเต็มที่
ข้อหาดังกล่าวทางผู้มีอำนาจ มีไว้เพื่อกำจัดนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม และนักวิชาการฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล รวมทั้งนักการเมืองหลายคน เคยโดนฝ่ายความมั่นคง แจ้งข้อกล่าวหานี้เมื่อครั้งที่ที่มีการแจกขันแดงให้ชาวบ้านไว้เล่นน้ำช่วงสงกรานต์
นายแพทย์ ชลน่าน กล่าวด้วยว่า จากพฤติกรรมของฝ่ายรัฐบาล ที่พยายามสร้างความสับสนแก่ประชาชนและการปฏิบัติการทางการข่าวเพื่อสร้างกระแสในสังคม ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแก้รัฐธรรมนูญในมาตร 1และมาตรา 2 การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก
ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันมาตลอดว่าการรณรงค์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความชัดเจนมาตลอดว่าไม่แก้ในมาตรา 1 และมาตรา 2 ซึ่งเป็นข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นแก้ไม่ได้อยู่แล้ว
การพยายามสร้างกระแสให้เกิดความปั่นป่วนในสังคม ถือว่าปฏิบัติการด้านการข่าวที่รัฐพยายามสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง อยากให้มีหน่วยงานไหนแจ้งความเอาผิดรัฐในการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน
นายแพทย์ ชลน่าน กล่าวอีกว่า เป็นที่ทราบกันว่ารัฐบาลพยายามที่จะไม่ให้มีการเคลื่อนไหวในการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลจะเสียประโยชน์ ทั้งนี้เพราะหากแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จแผนยึดอำนาจประเทศไทย 20 ปีจะเสียของ ดังนั้นคณะผู้ยึดอำนาจจึงยอมไม่ได้