หน้าแรก news “วีรศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย! สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผนวกชุมชนต้นแบบ ‘Smart village’ เข้ากับผู้ผลิตสินค้า GI

“วีรศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย! สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผนวกชุมชนต้นแบบ ‘Smart village’ เข้ากับผู้ผลิตสินค้า GI

0
“วีรศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย! สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผนวกชุมชนต้นแบบ ‘Smart village’ เข้ากับผู้ผลิตสินค้า GI
Sharing

รมช.พณ. สั่งการ! กรมพัฒน์ฯ และกรมทรัพย์สินฯ ช่วยกันดันผู้ผลิตสินค้า GI ให้รวมตัวกันในชุมชนเพื่อทำตลาดออนไลน์ให้โด่งดังและเข้มแข็ง…ผุด 2 แนวทางคือ 1) การพัฒนาผู้ผลิตที่ได้รับเครื่องหมายการันตีสินค้า GI เข้าสู่ Smart Village Online หลังกรมพัฒน์ฯ สร้างชุมชนต้นแบบ 5 แห่งแรกไทยสำเร็จ สามารถเชื่อมโยงกับ Market Place ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ยักษ์ใหญ่ได้ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยวัตถุดิบหลักจากสินค้า GI ช่วยสะท้อนถึงอัตลักษณ์ในให้หลากหลายมิติมากขึ้น

 

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือถึงแนวทางการบูรณาเพื่อช่วยกันผลักดันผู้ประกอบธุรกิจและสินค้าที่ได้รับเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้กลายไปเป็น  ผู้ประกอบธุรกิจมืออาชีพและสร้างชุมชนที่เข้มแข็งให้ยั่งยืน มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่มากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะสอดรับกับโครงการ Smart Village Online ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่โลกของการค้าออนไลน์ ปัจจุบันมีชุมชนต้นแบบ 5 แห่งแรกของประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือ 1) ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง 2) ชุมชนใบชาดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ผลิตภัณฑ์ใบชา 3) ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา 4) ชุมชนบ้านวังส้มซ่า จังหวัดพิษณุโลก ผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า และ 5) ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมกระจูด

รมช.พณ. กล่าวต่อว่า “ความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้แบ่งเป็น 2 แนวทางคือ 1) การพัฒนาผู้ผลิตที่ได้รับเครื่องหมายการันตีสินค้า GI ให้ก้าวเข้ามาสู่โครงการ Smart Village Online ซี่งจะช่วยทำให้ผู้ผลิตเกิดการรวมตัวกันพัฒนาสินค้าชุมชนให้มีอัตลักษณ์โดดเด่น กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ที่สำคัญจะก่อให้เกิดสร้างพลังและช่องทางการจำหน่ายสินค้าบนโลกออนไลน์มากขึ้น ผู้บริโภคจำนวนมากจากทุกสารทิศสามารถเข้าถึงสินค้า GI ได้อย่างง่ายดาย ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังแหล่งผลิต สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านอัตลักษณ์ของสินค้า และสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวนำรายได้เข้าสู่ชุมชน รวมไปถึงโครงการฯ ยังมีความร่วมมือกับ Market Place ตลาดออนไลน์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Lazada และตลาดออฟไลน์ขนาดใหญ่อย่าง King Power และเครือเซ็นทรัล ทำให้ผู้ผลิตสินค้ามีโอกาสที่จะเข้าสู่การทำตลาดในรูปแบบ Omni Channel ได้ และ 2) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า (Value Added) โดยการแตกสายการผลิตเพิ่มเติมจากเดิมที่จำหน่ายเฉพาะสินค้า GI ที่แสดงถึงความมีอัตลักษณ์ในท้องถิ่นเพียงด้านเดียว โครงการ Smart Village Online จะเข้าไปช่วยพัฒนารูปแบบการผลิตทั้งการให้ความรู้ในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่ผู้ผลิต สามารถสร้างสรรค์สินค้าให้สะท้อนถึงความเป็นชุมชนในหลากหลายมิติมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแต่ยังคงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นไว้ในสินค้า แม้ว่าสินค้าที่ผ่านการสร้างสรรค์ใหม่จากวัตถุดิบหลักที่มาจากสินค้า GI จะไม่ได้รับเครื่องหมายฯ ไปด้วยนั้น แต่วัตถุดิบที่มีคุณค่าจะช่วยการันตีถึงคุณภาพที่ดีเยี่ยมได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจจับจ่ายสินค้านั้นได้ไม่ยาก”

“สำหรับแนวคิดในข้างต้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากช่วงวันที่ 1-3 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง (นครสวรรค์ อุทัยธานี พิจิตร และกำแพงเพชร) โดยได้ไปเยี่ยมชมแหล่งผลิตปลาแรดลุ่มแม่น้ำสะแกกรังอุทัยธานี และเป็นสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย GI จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาผู้ผลิตสินค้า GI   ที่มีศักยภาพเป็นต้นทุนที่ดีอยู่แล้วให้สามารถขยายธุรกิจออกไปด้วยการรวมกลุ่มทำตลาดออนไลน์ในชุมชนภายใต้โครงการ Smart Village Online ซึ่งมีแนวทางพัฒนาสินค้าที่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่นและโดดเด่นเฉพาะตัวเหมือนกัน กระทรวงฯ คาดหวังว่าแนวคิดนี้จะช่วยสร้างเงินหมุนเวียนและธุรกิจในท้องถิ่นให้สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดไปได้อย่างรวดเร็ว” รมช.พณ. กล่าวในท้ายที่สุด

 


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่