หน้าแรก news “ธนกร” ยัน “ชิมช้อปใช้” ไม่ได้กระจุกตัวที่ห้าง ด้านเพื่อไทย แนะเลิกหลอกตัวเอง ชี้เศรษฐกิจไทยยังแย่

“ธนกร” ยัน “ชิมช้อปใช้” ไม่ได้กระจุกตัวที่ห้าง ด้านเพื่อไทย แนะเลิกหลอกตัวเอง ชี้เศรษฐกิจไทยยังแย่

0
“ธนกร” ยัน “ชิมช้อปใช้” ไม่ได้กระจุกตัวที่ห้าง ด้านเพื่อไทย แนะเลิกหลอกตัวเอง ชี้เศรษฐกิจไทยยังแย่
Sharing

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตราการชิมช้อปใช้คึกคักเป็นอย่างมาก ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันทั่วประเทศ แต่อยากฝากแจ้งประชาชนผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ในวันแรก (23 ก.ย. 2562) ซึ่งได้ทำการยืนยันและเปิดระบบแล้ว ให้รีบใช้จ่ายเงินบางส่วนครั้งแรกภายใน 14 วัน เพื่อป้องกันระบบตัดคืนเงิน ทั้งนี้ ข้อกำหนดหนึ่งของโครงการชิมช้อปใช้ คือการให้ประชาชนที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ต้องมีการเปิดใช้ครั้งแรกภายในระยะเวลา 14 วันเพื่อป้องกันระบบตัดคืนเงิน ซึ่งกลุ่มแรกที่จะครบกำหนดก็คือผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ในวันแรก แต่ระบบไม่ได้กำหนดให้ใช้จ่ายให้หมดภายในครั้งเดียว จึงไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายในครั้งเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือสามารถนำไปใช้ยังสถานที่อื่นๆ ภายในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2562

นายธนกร กล่าวอีกว่า การใช้จ่ายเงินตามโครงการชิมช้อปใช้ไม่ได้จำกัดอยู่ในห้างค้าปลีกใหญ่ๆ ตามที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหา ซึ่งกระทรวงมีตัวเลขชัดเจน และมีการประเมินติดตามตลอด ล่าสุดมีเพียง 19.78 เปอร์เซนต์ ที่เหลือใช้ในร้านค้าชุมชน ร้านโชห่วย ร้านธงฟ้า ร้านของชุมชนของชาวบ้านจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการนี้ และกระจายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบหาร้านที่เข้าร่วมโครงการได้จากเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com  หรือเปิดแอพพลิเคชั่น Google Map โดยจะมีการแสดงข้อความ “ร้านค้าชิมช้อปใช้” ขึ้นกำกับหลังชื่อร้านค้านั้นๆ ซึ่งหากประชาชนใช้จ่ายเงินกับร้านค้าตรงนี้ นอกจากท่านจะได้สินค้าตามต้องการแล้ว ยังเป็นการเสริมความเข้มแข็งในกับเศรษฐกิจในพื้นที่ของตัวเองด้วย

นายธนกร กล่าวด้วยว่า จากความสำเร็จของโครงการนี้ที่มีผู้ให้ความสนใจอย่างแพร่หลาย อยากเชิญชวนให้ร้านค้า หรือผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เพื่อเพิ่มยอดขายของร้านท่าน โดยสามารถกรอกใบสมัครและยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ  สำหรับในเขตกรุงเทพฯ สามารถสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง ชั้น 2 ในวันและเวลาราชการได้ถึงวันที่ 15 ต.ค. 2562 ส่วนชิมช้อปใช้เฟส2นั้น วันนี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารืออยู่ คงจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

ด้านนายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการดูภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศพบว่าเศรษฐกิจของประเทศยังคงไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุดส่งผลกระทบถึงภาคครัวเรือนที่ประสบปัญหาหนักมาก เพราะลูกหลานที่เรียนจบมาไม่มีงานทำ ตัวเลขคนตกงานเพิ่มสูงขึ้นมาก หลายครอบครัวประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง อีกทั้งคนในครอบครัว ไร้งาน ไร้เงิน เป็นปัญหามาก

นอกจากนี้ทราบจากการรายงานตัวเลขคนว่างงาน จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่เปิดเผยตัวเลขการทำงานของคนไทย พบว่า มีผู้จำนวนคนว่างงาน ทั้งสิ้น 436,000 คน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.1% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 พบว่าจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 54,000 คน

นายนิยม กล่าวด้วยว่า รัฐหลอกตัวเองมาตลอดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยดี ประชาชนมีความสุขกับมาตรการที่รัฐบาลออกมา อยากให้เลิกหลอกตัวเองแล้วมาพูดความจริงกับประชาชน อยากถามว่ารัฐบาลที่บอกว่าประชาชนมีความสุข ถามว่า ประชาชนกลุ่มไหนที่มีความสุข เพราะประชาชนชาวรากหญ้ายังไร้ทางออก ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ ค้าขายลำบาก คนไม่มีเงินมาซื้อสินค้า มาตรการช่วยเหลือประชาชนของรัฐ ควรช่วยให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

นายนิยม กล่าวด้วยว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศไทย เศรษฐกิจไทยมีปัญหาหนัก เป็นที่ประจักษ์ในสายตาคนไทยทั้งประเทศ และมีการวางยุทธ์ศาสตร์ชาติอีก 20 ปี ประเทศไทยจะแย่แค่ไหน คงไม่สามารถอธิบายได้ รัฐบาลควรยอมรับความจริงและฟังคำแนะนำจากรัฐบาลที่ผ่านมาหรือดูว่าที่ผ่านมา เค้าบริหารประเทศกันอย่างไรถึงไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ อย่าไปเอาความเชื่อแบบผิดๆว่าฉันเก่ง ฉันแน่ ฉันดี มาใช้ในการบริหารประเทศเพราะประเทศจะไม่พ้นปากเหวเศรษฐกิจอย่างแน่นอน


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่