หน้าแรก news ฝ่ายค้านเดือด! โวยรัฐเก็บข้อมูล WIFI ส่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เชื่อ ลูกค้าจะน้อย ร้านกาแฟจะเจ๊ง!

ฝ่ายค้านเดือด! โวยรัฐเก็บข้อมูล WIFI ส่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เชื่อ ลูกค้าจะน้อย ร้านกาแฟจะเจ๊ง!

0
ฝ่ายค้านเดือด! โวยรัฐเก็บข้อมูล WIFI ส่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เชื่อ ลูกค้าจะน้อย ร้านกาแฟจะเจ๊ง!
Sharing

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอให้ร้านค้าเอกชน ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ เก็บข้อมูลประชาชนที่เข้าใช้อินเทอร์เน็ต WiFi ภายในร้านว่า ประชาชนเกิดความสับสน ความเห็นจากรัฐบาลไม่ตรงกัน ตกลงการดำเนินการดังกล่าวเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หรือขอความร่วมมือ มีกฎหมายอื่นที่สามารถบังคับใช้ แล้วเกิดผลกระทบน้อยกว่านี้หรือไม่ ประชาชนไม่สบายใจและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มองมุมไหนก็น่าจะเป็นการสร้างความยุ่งยาก และเกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ผู้ประกอบการร้านค้า เอสเอ็มอี รายเล็กรายน้อย คนหาเช้ากินค่ำ ควรได้รับความสะดวกสบาย มีมาตรการเสริมศักยภาพการแข่งขันให้สูงขึ้น ไม่ใช่สร้างปัญหาอุปสรรคสิ่งกีดขวางให้ผู้ประกอบการประสบความยากลำบาก ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐต้องไม่มองประชาชนอย่างหวาดระแวง แต่ต้องมองบนพื้นฐานของความเมตตา ความปรารถนาดี เอาใจเขามาใส่ใจเรา ประกาศตัวเป็นไทยแลนด์ 4.0 แต่มาตรการนี้เหมือนกลับไปไทยแลนด์ 0.4

ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านกาแฟต่างๆ สะท้อนว่ารัฐไม่มีมาตรการช่วย ก็ถือว่าเลวร้ายแล้ว แต่การสร้างอุปสรรคและสิ่งกีดขวางให้ร้านค้า ถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่า ชิมช้อปใช้ ก็ไม่ได้ประโยชน์ ยังมาบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความยากลำบากในการประกอบอาชีพขึ้นไปอีกนายอนุสรณ์ กล่าว

นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติชี้ว่า การให้ร้านกาแฟเก็บข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการ WiFi คือหนึ่งนโยบายทีช่วยทำลายเศรษฐกิจของฐานรากเช่นเดียวกับอีกหลายนโยบายที่ผ่านมาในรอบห้าปี ทั้งการจัดระเบียบทางเท้า การจัดระเบียบเครื่องสำอาง การจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยว การจะออกนโยบายหรือบังคับใช้กฏหมายใดๆ ต้องดูให้รอบด้านทุกด้านว่ามีผลกระทบกับอะไรบ้าง ไม่ใช่เน้นเฉพาะต้องการสร้างความมั่นคงของผู้อยู่ในอำนาจให้ยืนยาว ไม่ดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติ

จากรายงานสภาวะเศรษฐกิจทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน สถานศึกษา และรายงานผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจหลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อ 24 มีนาคม รายงานส่วนใหญ่แสดงผลที่ทำให้ประชาชนหมดหวัง สถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงทุกเดือน ปริมาณข่าวการฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจมีความถี่ขึ้น เป็นข้อบ่งชี้ว่าสถานะเศรษฐกิจฐานรากของประเทศในเวลานี้อยู่ในสภาพโคม่า กฏหมายหรือนโยบายใดๆที่รัฐบาลจะนำมาใช้ต้องคำนึงถึงลำดับความสำคัญก่อน ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากคือความสำคัญลำดับแรกที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข มาตรการทางกฏหมายหรือนโยบายใดๆ ที่กระทบต่อการทำให้เศรษฐกิจฐานรากอ่อนแอ หรือทำลายอาชีพของกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากต้องชะลอไว้ก่อน ต้องเลือกดำเนินการโครงการที่มีผลช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

การที่จะให้ร้านกาแฟลงทะเบียนผู้ใช้ WiFi ที่มีพื้นฐานมาจากความคิดต้องการสร้างความมั่นคงทางอำนาจของรัฐบาล แต่ส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าร้านกาแฟน้อยลง ถ้าจำนวนลูกค้าน้อยลงไปถึงจุดที่ไม่คุ้มทุนร้านกาแฟก็ต้องปิดตัวไป เท่ากับมาตราการนี้ช่วยทำลายเศรษฐกิจร้านกาแฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงดี.อี. สามารถสร้างโครงการมากมายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การขยายโครงข่ายโครงสร้างการสื่อสาร การส่งเสริมการผลิตปัญญาประดิษฐ์ฯลฯ ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของประเทศ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีต้องมีวิสัยทัศน์ ลำดับความสำคัญของปัญหาก่อนหลังเป็น และการจะดำเนินมาตรการใดๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบให้รอบด้าน นางสาวเกศปรียากล่าว


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่