นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัย นวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยล่าสุด ว่า รัฐบาลอยู่บนภาวะความไม่แน่นอน อันเกิดจากอารมณ์ประชาชน เนื่องจากประชาชนอดทน ยอมให้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพไป แต่กลับไม่ได้รับสิ่งตอบแทนกลับมาเลย ทั้งการปฏิรูปประเทศ การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนก็ยังอยู่ ณ จุดเดิมเหมือนก่อนรัฐประหาร แน่นอน ย่อมทำให้ประชาชนผิดหวัง
“แรงต้านต่อรัฐบาล และ คสช. มีน้อยเพราะประชาชนยังทนได้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะทนได้ถึงเมื่อไร เขาจะออกมาเรียกร้องให้เลือกตั้ง หรือจะออกมาไล่ ก็สุดแล้วแต่จะคาดเดา เมื่อก่อนรัฐบาลมีคะแนนนำนักการเมือง แต่ทุกวันนี้ มันเท่ากันแล้ว(หัวเราะ) หาก คสช.ยังมั่นใจในอำนาจและยังเพิกเฉยกับความอดทนของประชาชน เชื่อว่า คสช. จะต้องเจอกับแรงต้าน
ทั้งนี้ ด้วยความหวังดี หาก คสช.และ รัฐบาล ไม่อยากคลายอำนาจ สิ่งที่ต้องรีบทำคือ ปฏิรูปวงการตำรวจ ปฏิรูประบบราชการ ที่มันเทอะทะ เชื่องช้า รวมศูนย์จนเกินไป ให้มันมาอยู่ในมือของประชาชนมากขึ้น และกล้าปราบโกง แบบจริงจัง ไม่ลูบหน้าปะจมูก เชื่อว่า รัฐบาลสามารถอยู่ต่อได้”
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า รัฐบาลเข้ามาด้วยวิธีที่ไม่ได้รับการยอมรับ แต่สามารถบริหารอย่างชอบธรรมได้ หากมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาประเทศอย่างแท้จริง สามารถพิสูจน์ความจริงใจที่กล่าวได้ ในเวลาที่เหลือก่อนการเลือกตั้ง
“การได้เวลาเพิ่ม 90 วัน บวกกับเวลาที่มีอยู่เดิม ถ้าตั้งใจทำงาน มันสามารถสื่อสารกับประชาชนได้แล้ว ว่าคุณมีความสามารถ มีความจริงใจ แค่ไหน”
สำหรับปัญหาสีเสื้อ กับความขัดแย้งในประเทศไทย นายสุริยะใส กล่าวว่า ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง ได้ดึงคนในสังคมเข้าไปร่วมอยู่ในการต่อสู้ มันทำให้ประชาชนไม่สนใจปัญหาอื่น ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหาท้องถิ่น ปัญหาชุมชน ถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย
สุดท้าย นายสุริยะใส กล่าวถึงอนาคต การเมืองไทยหลังจากนี้ว่า หากยังอยู่ในมือผู้เล่นคนเดิม วิธีเล่นแบบเดิม การเมืองไทยก็ต้องอยู่ที่เดิม ตอนนี้สังคมไทยต้องช่วยกันหาผู้เล่นหน้าใหม่ และวิธีทำงานการเมืองแบบใหม่ เพื่อมาเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย