นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวโครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งจัดโดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย ศิลปินดารา ญาติผู้บริจาคอวัยวะ และผู้ที่ได้รับอวัยวะ ร่วมรณรงค์ภายใต้ชื่อกิจกรรม JUST SAY YES!
นายอนุทิน ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข เป็นฝ่ายสนับสนุนภารกิจบริจาคอวัยวะ โดยมีเครือข่ายโรงพยาบาลอยู่ทั่วประเทศ เมื่อมีผู้เสียชีวิตโดยปัจจุบันทันด่วน ที่ผ่านมาคุณหมอและพยาบาลได้ทำหน้าที่เจรจากับญาติผู้ประสบเหตุที่สมองตายให้บริจาคอวัยวะ แต่ส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแพทยสภา กำลังผลักดันร่างกฎหมายบริจาคอัตโนมัติแบบสมัครใจ ซึ่งหวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนต่อไป
รมว.สธ.กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมีภารกิจรับส่งหัวใจอยู่แล้ว ซึ่งอวัยวะอย่างหัวใจนี้ ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะต้องเคลื่อนย้ายภายใน 4 ชั่วโมง ยิ่งเร็วยิ่งแข็งแรง จึงถือว่าว่าเป็นความเครียดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อมีเจตนาดีแล้วก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตนหายเหนื่อย
นอกจากนี้ นายอนุทินยังเล่าถึงภารกิจหัวใจติดปีกครั้งล่าสุด ครั้งที่ 29 ที่ จ.อุดรธานี ว่าเป็นครั้งที่ท้าทายมาก เพราะติดพายุ แต่สุดท้ายสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รวมถึงเคสก่อนหน้าที่ จ.เชียงราย ในขณะที่ติดประชุมอยู่ แต่สุดท้ายต้องตัดสินใจไป และทำให้รู้ว่าตนคิดไม่ผิด เพราะนอกจากจะได้หัวใจแล้วยังได้อวัยวะอื่นๆด้วย หลังจากวันนั้น ทำให้ตนรู้ว่า SAY NO ไม่ได้ ได้แต่ JUST SAY YES ได้อย่างเดียว
“ย้อนไปครั้งแรก ในภารกิจรับส่งหัวใจ เพราะมีเพื่อนสมัยเด็กเป็นหมอ คือหมอพัชร วันนั้น 24 ธ.ค.2557 คริสมาสอีฟ ประมาณหกโมงเย็น ด้วยข้อดีของโซเชียลมีเดีย หมอพัชรได้โทรมาขอความร่วมมือ เพราะเห็นภาพในเฟซบุ๊กว่าผมมีเครื่องบินส่วนตัว จากนั้นจึงตกลงไปรับอวัยวะที่อุดรธานี จึงเป็นที่มาของ หนูแอร์ รับเหมาเป็นผู้รับส่งหัวใจ ภารกิจนี้เป็นการสนธิกำลังโดยที่ไม่ต้องเห็นหน้ากัน มีมิสชั่นอย่างเดียวคือ เอาอวัยวะไปให้คนที่กำลังรออยู่ นี่คือความมันของภารกิจนี้”
โดยระหว่างแถลงข่าว นายแพทย์พัชร อ่องจริต หน่วยศัลยกรรมทรวงอกและหัวใจ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อม ชาย-ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อจำลองเหตุการณ์ขนส่งอวัยวะ เพื่อมอบกล่องอวัยวะให้คณะผู้บริหาร ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยด้วย
ด้านนายแพทย์วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะม่กถึง 6,271 ราย ปต่มีผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 481 ราย จึงเกิดปัญหาอวัยวะไม่เพียงพอสำหรับการปลูกถ่าย ซึ่งสาเหตุเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การขาดความรู้ความเข้าใจ และปัญหาในการประสานงาน ดังนั้นศูนย์รับบริจาคอวัยวะจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยมีระยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2562- 4 พฤษภาคม 2563 มีเป้าหมายผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ จำนวน 150,000 คน ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างศูนย์รับบริจาคอวัยวะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับบริจาคอวัยวะเพื่อความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการแสดงความจำนง ศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้เพิ่มช่องทางการบริจาคผ่าน “บริจาคอวัยวะออนไลน์” ในเว็บไซต์ www.organdonate.in.th และบริจาคอวัยวะผ่าน “Mobile Application: บริจาคอวัยวะ” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจ โดยสามารถกรอกข้อมูลผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน หลังจากนั้นระบบจะส่ง sms และ e-mail แจ้งผู้แสดงความจำนงและญาติผู้บริจาคอวัยวะต่อไป
