หน้าแรก news วิปสองฝ่าย มีมติเพิ่มเวลาอภิปรายงบปี63 ฝ่ายละ 18 ชม.- ‘ทิพานัน’ สวนเพื่อไทยอย่าวิจารณ์แบบตีเช็กเปล่า

วิปสองฝ่าย มีมติเพิ่มเวลาอภิปรายงบปี63 ฝ่ายละ 18 ชม.- ‘ทิพานัน’ สวนเพื่อไทยอย่าวิจารณ์แบบตีเช็กเปล่า

0
วิปสองฝ่าย มีมติเพิ่มเวลาอภิปรายงบปี63 ฝ่ายละ 18 ชม.- ‘ทิพานัน’ สวนเพื่อไทยอย่าวิจารณ์แบบตีเช็กเปล่า
Sharing

จากกรณีที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 2563 ว่า ให้หว่านเหวี่ยงและหยุดแจกแบบให้เปล่านั้น น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ ‘อ้น’ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นการวิจารณ์บนพื้นฐานของความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่หลายประการ ประเด็นแรก ให้หยุดหว่านแห  โดยยกตัวอย่างโครงการ “ชิม ช้อป ใช้”นั้น ยิ่งชัดเจน ว่า นายเผ่าภูมิมีความไม่เข้าใจว่า เป็นเพียงมาตรการกระตุ้นศรษฐกิจในระยะสั้น  และเมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของโครงการ จะพบว่าไม่ใช่การหว่านแหแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเฉพาะเจาะจงที่จะกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยข้ามจังหวัด กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจชุมชน  ในจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งมีระบบที่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้จริง กระทั่งมีเม็ดเงินย้อนกลับเข้ามาหมุนเวียนในระบบ โดยล่าสุดกระทรวงการคลัง”โดยกรมบัญชีกลางได้สรุปการใช้จ่ายโครงการชิมช้อปใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.เป็นต้นมา พบว่ามีจำนวนผู้ใช้สิทธิ 6,507,594 คน คิดเป็นการใช้จ่าย 6,229.2 ล้านบาท การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ ย่อมส่งผลดีต่อชุมชนโดยตรงแน่นอน

ส่วนกรณีที่ให้หยุดแจกแบบให้เปล่าและให้มุ่งเน้น Active Welfare นั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า หากเข้าใจหลักการแล้ว  จะพบว่าไม่มีเม็ดเงินที่รัฐบาลให้เปล่า การมุ่งเน้นให้มีการเกิดการใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยว เป็นการมุ่งเน้นให้ระดับฐานรากให้มีเม็ดเงินในระดับท้องถิ่น นำไปสู่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน ประชาชนมีงานทำงานในพื้นที่ มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาทั้งฝีมือและการบริการต่างๆ  จนนำไปสู่การจัดสวัสดิการแบบ Workfare ไม่ใช่  Active Welfare ที่ประชาชนจะรอแรงจูงใจจากภาครัฐอย่างเดียว ซึ่งการที่พรรเพื่อไทยมองแค่ว่าประชาชนจะรอการช่วยเหลือจากรัฐอย่างเดียวนั้น อาจจะดูถูกประชาชนในพื้นที่เกินไป

และประเด็นอื่นที่นายเผ่าภูมิ  กล่าวว่าให้ใช้งบประมาณสร้างอุตสาหกรรมใหม่  ให้ใช้งบประมาณไปสร้างงาน สร้างผลิตภาพ รวมไปถึง ใช้งบประมาณไปสร้างการแข่งขัน นั้น นางสาวทิพานัน กล่าวต่อว่า อยากชวนให้ฝ่ายค้านศึกษาโครงการ “ประชารัฐสร้างไทย”  ที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน  ของประเทศไปจนถึงระดับโลก ซึ่งพรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับการเดินหน้าประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างชุมชนฐานรากให้แข็งแกร่ง

นางสาวทิพานัน กล่าวต่อว่า แม้แต่การเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย เงินเหล่านั้นเข้าไปหมุนเวียนในระบบ ไปซื้อข้าวของเครื่องใช้อุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวัน ก็แปลกลับมาเป็นภาษีที่ต้องจ่ายให้กับผู้ประกอบการส่งให้คลังอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีเงินที่ให้เปล่า  พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายงบลงทุนช่วงไตรมาส 4/2562 ไว้ 3 หมื่นล้านบาท และในปี 2563 ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งหากฝ่ายค้านมีข้อเสนอที่จะช่วยกันสร้างความเข้าใจอันดีและช่วยกันคิดเพื่อพัฒนาประเทศ ก็สามารถเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมมาได้ ไม่ใช่ตั้งคำถามแบบหว่านแห ตั้งคำถามแบบการตีเช็คเปล่าเช่นนี้

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 12.00 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) แถลงผลการประชุมตัวแทนวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องเวลาการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563  จากที่เคยตกลงกันไว้ว่าให้แต่ละฝ่ายอภิปรายฝ่ายละ15 ชั่วโมง  เพิ่มเป็นฝ่ายละ 18 ชั่วโมง และเริ่มประชุมเวลา  09.30น. เลิกการประชุมหลังเที่ยงคืนในแต่ละวัน เพื่อจะได้มาประชุมต่อในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น โดยไม่ต้องนับองค์ประชุม ส่วนฝ่ายใดประท้วงก็ให้หักเวลาของฝ่ายนั้น  ขณะที่การแถลงรายละเอียดงบประมาณของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะให้เวลา2ชั่วโมง โดยไม่รวมเวลาอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่วนการอภิปรายของครม.6 ชั่วโมงให้รวมอยู่ในโควตา 18 ชั่วโมงของฝ่ายรัฐบาล


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่