น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ’อ้น’ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 ของรัฐบาลว่าเป็นการแจกเงินแล้วหมดไป ไม่ได้สร้างการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนว่า รู้สึกท้อใจกับการทำงานของฝ่ายค้าน ที่ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจหลักการ ว่ามาตรการดังกล่าวไม่ใช่การแจกเงินไปเที่ยวเท่านั้น หากแต่เป็นการอาศัยกลไกให้ประชาชนช่วยกันกระจายเม็ดเงินออกไปเพื่อหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ผ่านการท่องเที่ยว เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวจะไม่ใช่การเที่ยวอย่างเดียว แต่ต้องกิน ต้องใช้ ซึ่งเงินเหล่านั้นก็จะหมุนไปในชุมชน เข้าสู่กระเป๋าของผู้ค้า ผู้ประกอบการต่างๆ และลงไปยังลูกจ้าง พนักงาน ทำให้ฟันเฟืองต่างๆทางเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ โดยชิมช้อปใช้ รอบนี้ไม่จำกัดจังหวัดที่จะใช้จ่ายแต่จะยกเว้นจังหวัดตามบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินไปได้ทั่วถึงมากขึ้น
ส่วนการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ก็เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย รวมทั้งยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การขยายเวลาช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 1 ปีพร้อมทั้งคืนภาษี VAT ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 5 เปอร์เซ็นต์โดยรัฐจะเก็บภาษี VATจากผู้มีรายได้น้อยเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงกันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 10 เดือน มาตรการต่างๆ มีส่วนช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในครัวเรือนให้กับประชาชน ช่วยแก้ปัญหาปากท้องได้อีกทางหนึ่ง
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากจังหวัดต่างๆสะท้อนความต้องการอยากให้ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะการจัดเวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้ก็กินได้เลย ซึ่งไปมาแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.กำแพงเพชร และจ.ราชบุรี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น เรื่องราวของนางหนูพิน มุ่งลา ชาวบ้านวัดบ้านตะบอง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อยากให้รัฐบาลดำเนินนโยบายนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ เนื่องจากไม่มีงานทำ ขณะที่สามีรับจ้างได้วันละ 300 บาท พอมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็นำเงินไปซื้อข้าวสาร กะปิ น้ำปลา และสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นได้ กินและใช้ได้ทั้งเดือน
“พรรคพลังประชารัฐ มีเป้าหมายให้ประชาชนยืนได้ด้วยตนเอง แต่ก่อนอื่นต้องช่วยเหลือคนที่ไม่มีกำลังและประคองให้เขาลุกขึ้นได้ก่อน เราลงพื้นที่ไปสัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ รับรู้ปัญหาและนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ออกมาตรการและนโยบายออกมาแก้ไขปัญหา ไม่ได้มัวแต่นั่งวิจารณ์อยู่แต่ในห้องแอร์” น.ส.ทิพานัน กล่าว
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ชุมชนวัดมงคลวราราม และชุมชนใกล้เคียง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. โดยจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ทราบรายละเอียดในการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ เฟส 2 ขณะที่บางส่วนคิดว่าโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคือโครงการเดียวกัน หากจะใช้บัตรสวัสดิการต้องเดินทางไปใช้ที่ต่างจังหวัด ซึ่งตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนแล้วว่าเป็นคนละโครงการกัน พร้อมกันนี้ชาวบ้านแจ้งว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปอำนวยความสะดวกในเรื่องของการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ยังอยากให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของที่อยู่อาศัยเนื่องจากที่อยู่อาศัยมีลักษณะทรุดโทรม ซึ่งตนยิ่งลงพื้นที่ยิ่งเห็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งน่าเห็นใจอย่างมาก ที่น่าเสียดาย คือ ส.ส. ฝ่ายค้าน อาจจะหลงลืมไปว่า ปัญหาเร่งด่วนคือความกินดีอยู่ดีของประชาชน ควรช่วยกันลงมือทำเพื่อประโยชน์ประชาชนมากกว่า
‘พรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมรับฟังปัญหา ให้การใส่ใจดูและความเป็นอยู่ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งตนจะได้นำข้อมูลต่างๆที่ได้รับลงพื้นที่สำรวจอยู่เป็นประจำ ไปรายงานพร้อมหารือต่อพรรคและประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป’ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว