การที่รายการช่องดังล็อกเป้าไล่อัดนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จนนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ลงความเห็นว่าเป็นการตีข่าวที่ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงนั้น
“นับเป็นเรื่องผิดปกติ”
เพราะเบื้องหน้าเบื้องหลังของสื่อดัง รวมไปถึงพรรคภูมิใจไทย มิสมควรต้องจองกฐินอย่างเอิกเกริกจนเป็นข่าวใหญ่
งานนี้ มีการมองกันว่าน่าจะมีผู้เสียผลประโยชน์จากการทำงานของ “นายศักดิ์สยาม” อยู่เบื้องหลัง
และเล่นเลยเถิด จนลืมมองไปว่า “นายศักดิ์สยาม” เป็นใคร
“พรรคภูมิใจไทย” มีอิทธิพลกับการเมืองไทยแค่ไหน
จำนวน ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย คือตัวกำหนดอนาคตของรัฐบาล
สำหรับ “นายศักดิ์สยาม” ได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรี “เงียบขาลุย” เพราะนับตั้งแต่มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินหน้าหารือเรื่อง “สัญญา” ไปแล้วหลายโครงการ
โดยเฉพาะหากเห็นว่าถ้าเดินหน้า มีแต่จะสร้างภาระให้กับรัฐ ลามไปถึงประชาชน ก็ต้องคุยกันใหม่
อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ที่หัสเดิม ต้องการให้เอกชนมาร่วมทุนทั้งค่าก่อสร้าง และงานเดินรถ แต่เมื่อบวกลบคูณหาร วิธีนี้ เพิ่มค่าใช้จ่ายหลายพันล้านบาท จึงเสนอให้แยกลงทุน รัฐดูแลงานโยธา ส่วนเอกชน จัดการเรื่องเดินรถ ที่จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายทั้งโครงการ
นี่เป็นตัวอย่าง “ความใจถึง” ของนายศักดิ์สยาม ที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งฉายาว่ารัฐมนตรีจอมรื้อ แต่ “นายศักดิ์สยาม” หาได้แคร์ เพราะบวกลบคูณหารแล้วประเทศได้ประโยชน์ เท่านี้ก็อธิบายสังคมได้ ไม่ต้องเขิน
กลายเป็นอีกฝ่ายที่ต้องอึกอักกลับไป
สไตล์การทำงานของ “นายศักดิ์สยาม” อาจจะถูกตาต้องใจใครหลายคน แต่สัจธรรมมนุษย์ เมื่อมีคนรัก ย่อมมีคนเกลียด ยุทธการ “เตะตัดขา” จึงเกิดขึ้น
ทว่าด้วยเพราะ “เล่นไม่เนียน” ที่สุดแล้ว แม้จะใช้กระบอกเสียงพูดแทน
แต่เมื่อนำ “องค์ประกอบ” ทั้งเรื่องสื่อ และความนิยมจากผลโพลซึ่งภูมิใจไทย ทำคะแนนชนะเลิศ มาวิเคราะห์ร่วมกัน ก็พอจะทราบว่า “ใคร” เล่นอยู่หลังฉาก
จึงไม่แปลกใจที่ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะ “จับไต๋” ได้ทั้งหมด แถมออกลูกขำเสียด้วยซ้ำ
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า
“ผมรู้นะ ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ผมจะไม่บอก เพราะเป้าหมายจะรู้ตัว และผมจะไม่ไปหารือกับใครทั้งนั้น ผมอยากให้รัฐบาลไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้ ให้เอาเวลาไปคิดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจดีกว่า เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ”
ยังไว้ไมตรีกับอีกฝ่าย เพราะสำหรับ “นายอนุทิน” ย่อมไม่อยากเห็นรัฐบาลต้องมาวุ่นวายกันด้วยเรื่องแบบนี้
ด้วยเห็นว่า “เรือเหล็ก” กำลังแล่นฉิว น่าจะเอาเวลา เอาความสามารถ ไปพัฒนาเรือดีกว่า
เพราะอย่าลืมว่าฝ่ายค้านก็ไม่ธรรมดา มีเสียงในสภาเกือบครึ่ง แถมยังมีฝ่ายค้านอิสระ ที่เดาทางลำบากอีกเกือบ 10 ชีวิต ฝ่าย “รัฐบาล” จึงประมาทไม่ได้
สำหรับ “ไอ้โม่ง” ที่จ้องเตะตัดขา “นายศักดิ์สยาม” ถึงตอนนี้ ก็น่าจะสะดุ้ง เพราะถ้า “รองฯอนุทิน” ทราบตัว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ “บิ๊กตู่” จะไม่รู้ว่าเป็นใคร
ดังนั้น คนที่มาบั่นทอน “สมาชิกเรือเหล็ก” รับรองว่าออกอาการ “หนาวๆร้อนๆ”
Ringsideการเมือง