นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยผลการดำเนินงานของ กมธ. และความเห็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.กมธ.ได้รายงานผลการศึกษา ฯ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธาน ฯ ได้สั่งบรรจุในระเบียบวาระการประชุมในวันพุธที่ 20 พ.ย.62 ขอให้ติดตามผลการศึกษาและข้อเสนอแนะที่จะมีไปถึงรัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
2. กมธ.สนับสนุนมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายในการแบน 3 สารเคมีอันตรายร้ายแรง คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เพื่อสุขอนามัยทึ่ดีของเกษตรกร ประชาขนผู้บริโภค และเด็กเกิดใหม่
3. กมธ.ไม่สนับสนุนการหาสารเคมีชนิดใดมาทดแทนสารเคมีที่ถูกแบน แต่มุ่งมั่น ส่งเสริม สนับสนุน โครงการเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อยกระดับการเกษตรของไทยเป็น “ครัวของโลก”
4. ขอชื่นชม ดีเอสไอ.ที่ไปตรวจค้น จับกุม ร้านค้าที่จำหน่ายสารชีวภัณฑ์โดยผสมพาราควอต และไกลโฟเซต นับเป็นการทำงานที่ทันกับสถานการณ์ และขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาดตรงไป ตรงมา เพราะหากินบนความเดือดร้อนของเกษตรกร และประชาชนผู้บริโภค
5. ขอให้หน่วยเฝ้าระวัง สุ่มตรวจสอบ ผัก ผลไม้ และยาปราบศัตรูพืช ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับดีเอสไอ.ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง จะส่งผลให้ประชาชนคนไทยโดยรวมมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น
6. เมื่อถึงกำหนดวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ที่มติคณะกรรมการวัตถุอีนตรายมีผลบังคับใช้ในการแบน 3 สารพิษดังกล่าวขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกับ ดีเอสไอ.ดำเนินการกับผู้ที่อาจนำสารต้องห้ามดังกล่าวไปแอบจำหน่ายใต้ดินโดยขอให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยเฉียบขาด โดยยึดประโยชน์สุขภาพอนามัยประชาชนเป็นที่ตั้ง
ขอยืนยันอีกครั้งในนาม กมธ.ไม่เคยคิดแบนสารพิษชนิดใด เพื่อหาสารตัวอื่นมาทดแทน เป้าหมายสูงสุดของ กมธ. คือ โครงการเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อยกระดับการเกษตรของไทยเป็นครัวของโลก ดังกล่าวข้างต้น