เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปติดตามการจัดกิจกรรรมฝึกลูกเสือมัคคุเทศก์ภาคปฏิบัติ “กระบวนการค้นหาเรื่องราวและเรื่องเล่าของท้องถิ่น ตลอดจนหารจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา” ซึ่งเป็นส่วหนึ่งของหลักสูตร ณ โบราณสถานแห่งเมืองศรีมโสถ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวแสดงความยินดี ที่ได้เห็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ในการจัดกิจกรรมฝึกอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดปราจีนบุรี ในรุ่นแรกนี้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาบุคลากร ให้มีทักษะความสามารถในการนำเที่ยวบ้านของตนเอง สานต่อพระปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งกิจการลูกเสือไทย เป็นต้นแบบของการพัฒนาคน เพื่อไปพัฒนาชาติ
จึงเป็นหน้าที่ของเยาวชนและคนรุ่นหลัง ที่จะต้องสืบสานองค์ความรู้ของการเป็นลูกเสือ พร้อมน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ในการมุ่งสร้างพื้นฐานผู้เรียน 4 ด้าน คือ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม อย่างต่อเนื่องและจริงจัง
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ขอให้ลูกเสือที่เข้ารับการอบรมมีความมั่นใจในตัวเอง หมั่นฝึกฝนและหาความรู้อยู่เสมอ ตลอดจนหวงแหน ปกป้อง เชิดชูโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดปราจีนบุรีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขอฝากถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้การสนับสนุนปรับปรุงสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวมากขึ้น ที่จะช่วยสร้างความน่าสนใจ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีทุกคนทำงานร่วมกันเป็นทีม และมีการปรึกษาหารือกันอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีพยายามผลักดันนโยบายพัฒนาประเทศในทุกมิติ เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งก็ต้องอาศัยความร่วมมือในระดับพื้นที่ โดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชนทุกคน ร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเจริญให้กับประเทศของเรา
“และในฐานะรัฐมตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำกับดูแลการดำเนินงานของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ริเริ่มโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์ จนเกิดการฝึกอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์นำร่องในจังหวัดปราจีนบุรี เป็นรุ่นแรก ในครั้งนี้ ทั้งยังเตรียมวางแผนปรับปรุงพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในจังหวัดปราจีนบุรีในหลายส่วน อาทิ การพัฒนาค่ายลูกเสือห้วยเกษียร ให้เกิดประโยชน์ต่อเด็กเยาวชน ชุมชน และประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง, การปรับปรุงที่ว่าการอำเภอเมืองปราจีนบุรีหลังเก่า เป็น Co-Learning Space เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยของคนทุกช่วงวัย ตามนโยบาย 6G ก้าวสู่ยุคดิจิทัล โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายความร่วมมือ ด้านการเรียนรู้และจัดนิทรรศการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มาถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ทั้งหุ่นยนต์ (Robotic), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence), ภาษาคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding), บอร์ดเกม (Board Game) ฝึกสมอง การวางแผน และการคิดวิดคราะห์ เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อผู้ใหญ่ทุกคนพร้อมให้การสนับสนุน ลูกเสือมัคคุเทศก์รุ่นแรกทุกคน ก็ต้องมีความ “กล้า” กล้าที่จะทำสิ่งดี ๆ เพื่อจังหวัดปราจีนบุรี กล้าสื่อสารให้ชาวไทยและชาวต่างชาติรู้ว่าปราจีนบุรีมีดีอะไร ดังเช่นที่มีการนำเสนอเรื่องราวของ เมืองศรีมโหสถ ถึง 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ และนอชก์ หรือภาษานอร์เวย์) และกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองตลอดจนเวลา ทั้งนี้ ขอให้นึกไว้เสมอว่า ทุกคนคือความภาคภูมิใจของปราจีนบุรีและประเทศไทย” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังกระทรวงศึกษาธิการ จับมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมดำเนินโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์” (Guide Scout) เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 พร้อมจัดทำหลักสูตร เพื่อสร้างสมรรถนะ ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นลูกเสือมัคคุเทศก์ รุ่นแรก จำนวน 480 คน ใน 8 จังหวัดนำร่อง
ขอบคุณ กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.