นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี มติคณะกรรมการค่าจ้าง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาททั่วประเทศ ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 ว่า พรรคพลังประชารัฐรู้สึกอย่างไร ที่นโยบายหาเสียงเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน ไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ หลอกลวง เพื่อหวังผลคะแนนหรือไม่ ตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ พอมาเป็นรัฐบาลปรับจริงแค่ 5-6 บาท แล้วยังสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ต้องยกระดับทักษะฝีมือแรงงานก่อน การกระทำในลักษณะนี้เข้าข่ายการเสนอให้ หรือสัญญาให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมือง โดยการหาเสียงเลือกตั้งจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับแนวทางที่เป็นนโยบายของพรรคการเมือง หาเสียงอย่างตอนทำกลับไปทำอีกอย่าง เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงเพื่อให้ได้คะแนนหรือไม่ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรมของพรรคการเมือง เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่แย่และไม่ถูกต้องให้กับการออกนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองหรือไม่ ประชาชนสงสัยมาก นอกจากนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่ตรงปก ทำไม่ได้แล้ว นโยบายการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ก็ยังทำไม่ได้ แล้วแก้เกี้ยวว่าเป็นเพียงการยกตัวอย่างตอนหาเสียงเท่านั้น นโยบายมารดาประชารัฐ ช่วยเหลืออะไรใครไปแล้วบ้าง ได้รับเงินเท่าไหร่ โครงการเริ่มวันไหน มีใครได้รับเงินจากโครงการนี้บ้างหรือไม่
“อย่าให้สังคมตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นพรรคการเมืองอื่นหาเสียงแล้วไม่ทำ จะเข้าข่ายตระบัดสัตย์ ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ ทำไมพอเป็นพรรคพลังประชารัฐทำแล้วไม่โดน พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ และจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างแน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว