น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ “อ้น” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรีกล่าวถึงกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลซื้องูเห่านั้น เมื่อตนได้ สืบค้นคำดังกล่าวพบคำว่า จิรายุ ห่วงทรัพย์ จึงทำให้ต้องมาขอความรู้จากผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ว่าวิธีซื้องูเห่าคืออะไร ขอให้ช่วยชี้แจงแสดงหลักฐานต่างๆโดยละเอียดเพื่อให้สังคมประจักษ์ เพราะการทำการเมืองโดยเอาความเชื่อส่วนบุคคลมาชี้นำสังคมนั้นจะทำให้มาตรฐานการเมืองไทยตกต่ำ
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่าสำหรับภาพความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะทำให้นายจิรายุขัดหูขัดตาไปบ้างเพราะภาพพบรรยากาศดังกล่าวไม่สามารถพบเห็นได้จากการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 26 พย. 62 ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ที่ภาพข่าวมีแต่ภาพความเคร่งเครียด ระมัดระวังตัว นั่งหลังตรง คอแข็ง ไร้รอยยิ้มของผู้เข้าร่วมประชุม และนอกจากร่องรอยความขัดแย้งภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำแล้ว การบริหารงานของพรรคเพื่อไทยเองก็อาจมีรอยร้าวชัดเจน หลักฐานที่ประจักษ์ คือ สมาชิกพรรคที่เคยเป็นถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขอลาออกจากพรรคเพื่อลงสมัครผู้ว่า กทม. แบบอิสระ และล่าสุดความไม่พอใจของ ส.ส. กลุ่มภาคอีสานต่อการบริหารจัดการของผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจนต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อลดความเครียดจากการทำงาน ทั้งๆ ที่หน้าที่ของ ส.ส. คือการลงพื้นที่ ดูแล รับฟัง และเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องมากกว่า
ส่วนปัญหาสภาล่มนั้น รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายจิรายุกล่าวเหมือนคนเพิ่งตื่นหรือไม่ได้อยู่ร่วมการประชุมสภาฯ ที่ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านทำให้การประชุมสภาล่มถึง 2 วันเพราะไม่ยอมรับกติกาตามข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้พี่น้องประชาชนมองว่า ผู้แทนราษฎรของเขามัวแต่เล่นเกมการเมือง ไม่ทำหน้าที่ ส.ส. ในการเข้าร่วมประชุม หากมี ส.ส. มาประชุมไม่ครบองค์ประชุมอีกในคราวถัดไป การประชุมสภาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ซึ่งการขาดระเบียบและมารยาทของ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านเช่นนี้ ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากรัฐมนตรีมาเข้าร่วมประชุมสภาแม้จะต้องเลื่อนบางภารกิจรัฐมนตรีก็ตาม ทั้งนี้เพราะท่านก็มีหน้าที่ของ ส.ส. เช่นกัน ซึ่งเมื่อต่อมาเมื่อการประชุมมีองค์ประชุมครบและมีผลการลงมติไม่ถูกใจพรรคร่วมฝ่ายค้าน แทนที่จะยอมรับตามกติกากลับออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลมีการซื้องูเห่า
“สำหรับการวอล์คเอาต์ตามแบบสากลจะเป็นการวอล์คเอาต์เพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ ไม่ได้เป็นไปเพื่อเกมการเมืองของฝ่ายตน และของไทยที่ผ่านมาก็เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น การวอล์คเอาต์ของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ในเวลารุ่งเช้า 04.24 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2556 เมื่อพรรคเพื่อไทยและสภาฯ ต้องการผ่านร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ซึ่งนายจิรายุที่อยู่ในสภาวันนั้นและประชาชนไทยทั้งประเทศยังคงจดจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า วิปรัฐบาลทำหน้าที่รวบรวมเสียงในรัฐสภาเพื่อให้คงความเป็นเสียงข้างมาก ซึ่งการทำงานร่วมกันของหลายพรรคการเมืองนั้น การเคารพมติพรรค และเคารพมติวิปรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญของการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ส.ส. “ต้องเคารพมติวิปฯ” เพราะทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลนำมติพรรคที่มาจากเสียงของ ส.ส. ในพรรค มาร่วมหารือกับที่ประชุมวิปรัฐบาลเพื่อหามติร่วมกัน และวิปฝ่ายค้านเองก็เช่นกัน
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เห็นชัดว่า “การทำงานร่วมของวิปฝ่ายค้านมีปัญหา” ในขณะที่ “วิปรัฐบาลสามารถทำงานได้ดี” ในการรวบรวมเสียงในรัฐสภาเพื่อให้คงความเป็นเสียงข้างมาก และเห็นด้วยว่าที่ผ่านมาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำงานหนักอย่างกับไม่ใช่ผู้หญิงตามที่นายจิรายุกล่าว ซึ่งหากนายจิรายุจะ “ลดเวลาการใช้งานอินเตอร์เน็ต” รับรู้ข้อมูลที่จริงบ้างเท็จบ้างจากสื่อโซเชียลทำหน้าที่ ส.ส. ลงพื้นที่พบปะประชานในเขตตนเองบ้าง แล้วไปช่วยคุณหญิงสุดารัตน์ประสานรอยร้าวของ ส.ส. ภายในพรรคเพื่อไทย รวมถึงการปรึกษาหารือร่วมระหว่างวิปฝ่ายค้านกับพรรคร่วมอื่นๆ ก็อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณหญิงสุดารัตน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย