น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เห็นว่าสังคมไทยควรตระหนักอย่างจริงจังถึงภาวะความไม่เป็นประชาธิปไตยอันเกิดจากรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการสืบทอดอำนาจ โดยเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากจะได้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่อ่อนแอ จนไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้แล้ว การที่ต้องมาแก้ไขเสียงปริ่มน้ำ จนมีคำครหาเรื่องการแจกกล้วยแก่ ส.ส.งูเห่า ไม่เว้นแต่ละวัน ย่อมส่งผลให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย และอาจทำให้เกิดภาวะการหันหลังให้ระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไม่ควรจะเป็น
ดังนั้นเนื่องในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ จึงขอเรียกร้องให้เครือข่ายรัฐประหารที่เคยอ้างว่าจะเข้ามาสู่การเมืองเพียงชั่วคราวเพื่อระงับความขัดแย้งทางการเมืองนั้น รีบถอยออกไปจากการเมือง ด้วยการยอมเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง เพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่กินได้ ประชาชนอยู่ดีมีสุข ไม่ใช่อดอยากยากจนหรือไม่มีจะกินเหมือนเช่นทุกวันนี้
“ที่อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง เอาเข้าจริงก็ไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจหรือเครือข่ายกลุ่มคนที่ยกร่างมาได้เลย หรือ การสร้างวาทกรรมว่าควรแก้รัฐธรรมนูญทีหลังเรื่องปากท้องมาก่อน ก็เป็นเพียงการบิดเบือนเอาตัวรอดรายวัน เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาและประชาชน ส่วนการแก้เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นหน้าที่รัฐบาล จะไปโทษฝ่ายค้านหรือเศรษฐกิจโลกได้อย่างไร” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรใช้โอกาสวันรัฐธรรมนูญเป็นหมุดหมายของการเดินหน้าไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง และกลุ่มคนที่กำลังได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ควรเปิดใจกว้าง ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมทั้งควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ที่กำลังลำบากยากจนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อันเนื่องมาจากการมีรัฐบาลด้อยประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบรัฐธรรมนูญมาเพื่อสืบทอดอำนาจเพียงอย่างเดียว
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ขอถือฤกษ์เอาวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ศึกษา แก้ไข เปลี่ยนแปลง ให้รัฐธรรมนูญของไทย มีความเป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากล และในวันพรุ่งนี้(พุธที่11ธ.ค.) ก็จะเป็นวันพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และก่อนการประชุม นายชวนหลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญผู้เสนอญัตติทุกคน เข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางการอภิปรายและกำหนดระยะเวลาการอภิปรายของผู้เสนอญัตติด้วย ซึ่งตนเองในฐานะผู้เสนอญัตติคนหนึ่ง จะเป็นผู้อภิปราย ต่อจากการอภิปรายของนายปิยะบุตร แสงกนกกุล ผู้เสนอญัตติที่1 จะอภิปรายเป็นคนแรก
สำหรับเการอภิปรายผมนั้น จะนำเสนอใน 3 ประเด็น คือ
1.จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐธรรมนูญ 2560
2.ทำไมต้องมีเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
3.ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแก้ไขมาตรา 256 เพียงมาตราเดียว ซึ่งจะอภิปรายในกรอบเวลาประมาณ 30 นาที
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้นั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของการใช้สิทธิ์พรรคใหญ่ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ส่วนตัวไม่ขัดข้องและยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ แต่ถ้าวันข้างหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะขอใช้สิทธิ์ของพรรคเล็กบ้างก็ต้องเป็นสิทธิ์เช่นเดียวกัน
จะต้องจับตาดูว่าพรรคพลังประชารัฐส่งใครมาเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ซึ่งการกำหนดตัวบุคคลในตำแหน่งนี้ เป็นการบ่งบอกถึงเจตนาขอ งพรรคพลังประชารัฐ ว่ามีความจริงใจในการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ต้องการให้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อ 12 สำเร็จหรือไม่