นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องฉาวการครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย 1,706 ไร่ ที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ราชบุรี ได้รับการกล่าวหาอยู่นั้นว่า “ที่ดิน ส.ป.ก.ที่ตอนไปเอามานั้นไม่ผิด เพราะถือครองไม่ได้ เมื่อถือครองไม่ได้ก็คืน แต่บางพื้นที่ตอนไปเอามานั้นผิด ดังนั้นเมื่อคืนไปความผิดก็สำเร็จ กฏหมายแต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลักเดียวกันหมด” นั้น
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอคัดค้านแนวคิดดังกล่าว และขอยืนยันในหลักการทางกฎหมายว่า“กฎหมายมีหลักการเดียวกันหมด” ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ยกเว้นแต่จะมีนักกฎหมายที่เป็นไม้หลักปักขี้เลนเท่านั้น ทั้งนี้พยานหลักฐานทั้งหลายทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และคำให้สัมภาษณ์ของน.ส.ปารีณา ล้วนสอดคล้องต้องกันว่าเป็นผู้ยึดถือครอบครองที่ดินรัฐทั้ง ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก. ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ตามกฎกระทรวง ฉ.1069(พ.ศ.2527) ออกตามความ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ซึ่งผู้ใดยึดถือ ครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งมีคำพิพากษาฎีกาอยู่มากมาย อาทิ ฎ.747/2550
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ต้องทำตนเป็นหลักของบ้านเมือง ต้องใช้หลักกฎหมายอย่างไม่เลือกปฏิบัติ มิใช่จะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใดเป็นการเฉพาะ เหตุเพราะผู้นั้นเป็นคนของรัฐบาล ถึงขนาดกล่าวออกมาได้โดยไม่กระดากลิ้นเลยว่า “กฎหมายแต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลักเดียวกันหมด”
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะพิสูจน์ให้เห็นว่า หลักกฎหมายมีหลักเดียว โดยการเริ่มตั้งประเด็นพิพาททางกฎหมาย ตาม ป.วิ.ปกครอง โดยจะนำความไปร้องเรียนต่อ เลขา ส.ป.ก.เพื่อดำเนินการทางคดีต่อน.ส.ปารีณา และ ส.ส.และ ส.ว. อื่นๆ ที่ยึดถือครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมายต่อไปในวันศุกร์ที่13 ธ.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร กทม.