หน้าแรก news “วีรศักดิ์” ชวนภาคธุรกิจร่วมกิจกรรม “สานต่อธุรกิจโปร่งใส สู่ความยั่งยืน” ชูธรรมาภิบาลเป็นจุดแข็ง .

“วีรศักดิ์” ชวนภาคธุรกิจร่วมกิจกรรม “สานต่อธุรกิจโปร่งใส สู่ความยั่งยืน” ชูธรรมาภิบาลเป็นจุดแข็ง .

0
“วีรศักดิ์” ชวนภาคธุรกิจร่วมกิจกรรม “สานต่อธุรกิจโปร่งใส สู่ความยั่งยืน”  ชูธรรมาภิบาลเป็นจุดแข็ง .
Sharing

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมให้ธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างมาตรฐานธุรกิจไทย สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เชื่อ!…ธุรกิจยั่งยืนต้องใช้ธรรมาภิบาล


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยถึงนโยบายการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาลในการประกอบกิจการ จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งสร้างต้นแบบธรรมาภิบาลธุรกิจ รวมถึงการให้ความรู้นิติบุคคลให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และดึงดูดการลงทุน

โดยขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำลังอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครนิติบุคคลทุกประเภทเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม สานต่อธุรกิจโปร่งใส สู่ความยั่งยืน ประจำปี 2563” สำหรับธุรกิจที่สนใจ สามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของธุรกิจที่จะสมัคร คือ 1.เป็นนิติบุคคลประเภท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน บริษัทจำกัด ที่จดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร 2.นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าต่อเนื่องทุกปี และ 3.ไม่เคยกระทำผิดกฎหมายหรืออยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ทั้งนี้ การพิจารณาผู้ผ่านเกณฑ์รับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จะมีคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากองค์กรภาครัฐและภาคธุรกิจชั้นนำของประเทศ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ก.พ.ร. กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น มาร่วมกันพิจารณา โดยยึดหลักเกณฑ์ 6 ประการ ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ซึ่งวิธีการตรวจประเมินผู้ที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม จะให้ธุรกิจทำแบบประเมินตนเองตามหลักธรรมาภิบาล และมีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งระดับผู้บริหาร พนักงาน หน่วยงานที่ร่วมดำเนินธุรกิจ การเข้าสังเกตการณ์การปฏิบัติงานและกิจกรรมต่างๆ ของธุรกิจ ณ สถานที่ประกอบการ พร้อมทั้งให้คำแนะนำจุดอ่อน จุดแข็ง ด้านธรรมาภิบาลธุรกิจอีกด้วย

จึงขอเชิญชวนภาคธุรกิจที่มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์สมัครเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่โปร่งใสและได้รับความไว้วางใจในการร่วมทำธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติทั่วโลกให้ความสำคัญต่อการมีธรรมาภิบาลของธุรกิจเป็นอย่างมาก หากนิติบุคคลไทยมีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจจะทำให้เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ในการเลือกลงทุน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและมีความมั่นคงยั่งยืนอย่างที่สุด

ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีนิติบุคคลที่ได้รับรองตามเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวนทั้งสิ้น 99 ราย (กรุงเทพมหานคร 32 ราย ส่วนภูมิภาค 67 ราย) แบ่งเป็นปี 2560 จำนวน 5 ราย (กรุงเทพมหานคร 4 ราย ส่วนภูมิภาค 1 ราย) ปี 2561 จำนวน 9 ราย (กรุงเทพมหานคร 4 ราย ส่วนภูมิภาค 5 ราย) ปี 2562 จำนวน 85 ราย (กรุงเทพมหานคร 24 ราย ส่วนภูมิภาค 61 ราย)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมและพัฒนาธรรมาภิบาลธุรกิจ กองธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 02547 4417,สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และ www.dbd.go.th หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่