รศ.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยผ่านรายการริงไซด์การเมืองว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้หมายความว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โจทก์ใหญ่ที่คณะกรรมาธิการ ต้องหาคำตอบ คือ 1 .ควรมีการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งมีคำตอบตามชื่อของกรรมาธิการอยู่แล้ว ส่วนที่สองคือจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร ตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 256 หรือ ตั้ง สสร.ขึ้นมาพิจารณาซึ่งอันนี้จะเป็นปัญหา เพราะไปเปลี่ยนวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องทำประชามติก่อน และส่วนที่สาม คือจะแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา หรือแก้ทั้งฉบับตามวิธีการตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
เมื่อกรรมาธิการศึกษาเสร็จแล้วจะนำผลการศึกษา ไปรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินว่า จะเห็นชอบตามที่กรรมาธิการศึกษาฯมาหรือไม่ หากสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบก็ดำเนินการต่อ ด้วยการเสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภาตามมาตรา 256 หากสภาผู้แทนราษฎร ไม่เห็นด้วย ญัตติก็ตกไป กรรมาธิการก็สลายตัว
รศ.ยุทธพร เห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยใช้กลไกรัฐสภา ตามปกติ จะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า วิธีการอื่น แม้จะไม่ใช่วิธีการที่ดี เนื่องจาก รัฐธรรมนูญมีความเชื่อมโยงทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในหลายมิติ การแก้ไขบางส่วนอาจจะทำให้สะดุด และไม่ได้ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม คล้ายการแก้ไขเรื่องระบบปาร์ตี้ลิสต์ในรัฐธรรมนูญ ปี50 ซึ่งเป็นการแก้ปัญหา ให้นักการเมือง โดยที่ประชาชน ไม่ได้ประโยชน์อะไร