ที่บ้านเลขที่ 33 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อมวลชนตั้งฉายารัฐบาลว่า รัฐเชียงกง ว่าถือว่าเป็นสีสันทางการเมืองที่ในแต่ละปีนักข่าวจะตั้ง และพอหลังปีใหม่ไปแล้วก็เตรียมตั้งปีถัดไป มองว่าเป็นสีสันสิ้นปีเท่านั้น
“ผมเองก็เคยโดนไป 2 ครั้ง ครั้งหนึ่ง หอกข้างแคร่ ที่บอกว่าไปอยู่กับใคร ใครก็เดือดร้อน อีกครั้งหนึ่ง สุวัจน์ 25 ชั่วโมง ผมโดนแล้วก็คิดว่าเราเพื่อนกันหยอกล้อกัน เป็นเรื่องปกติและเป็นเสียงสะท้อนของสื่อในลักษณะทีเล่นทีจริงหยอกเย้า”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าชื่อ รัฐเชียงกง เป็นแหล่งรวมของนักการเมืองรุ่นเก่าอย่างนั้นหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่าเป็นข้อเท็จจริงของสภาพการเมืองไทย ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่ได้เก่าล้วนๆ และไม่ได้ใหม่ล้วนๆ มีหลายเจเนอเรชั่นที่รวมกันอยู่ ดังนั้นเป็นองค์ประกอบทางการเมืองที่ต้องมีทั้งคนเก่าคนใหม่ มีทั้งอะไหล่เก่าอะไหล่ใหม่ มีทั้งรถเก่ามีทั้งรถใหม่ เป็นธรรมชาติของการเป็นรัฐบาลผสมที่มีเสียงปริ่มน้ำ จึงมีขีดจำกัดทางการเมืองอย่างมาก ถ้าจะให้มีแต่อะไหล่ใหม่ๆก็บริหารจัดการไม่ง่ายนัก เป็นข้อเท็จจริงของสภาพผลของการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น คงไม่ต้องไปซีเรียสอะไรจะเป็นของใหม่หรือของเก่าให้รถยนต์วิ่งได้ก็แล้วกัน ถ้ารถยนต์คันนี้วิ่งครบ 4 รอบ วิ่งถึงฝั่งนั่นถือเป็นความสำเร็จ