ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งมายาวนานนับทศวรรษ
จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ส่งผลให้คนต่างประเทศมองเข้ามาในประเทศไทยกลายมาเป็นการเล่นกีฬาสีที่ส่งผลให้ประเทศไทยตกในวังวนของความวุ่นวายไมรู้จบ ด้วยการแบ่งสีเลือกข้างที่ร้าวลึกลงไปถึงระดับครอบครัว ส่งผลให้ความสามัคคีในครอบครัวล่มสลาย คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะบางครอบครัว พ่อแดง แม่เหลือง ลูกหลากสี หากไม่เลิกสงครามสีหรือลดความขัดแย้งลงไป ประเทศไทยก็ก้าวไม่พ้นความขัดแย้งของคนในชาติ
ไม่นับการสร้างวาทกรรมเพื่อสร้างความเกลียดชังให้กับอีกฝ่ายของบรรดาพรรคการเมือง หรือกระทั่งคนในกองทัพก็ออกมาร่วมสร้างวาทกรรมทางการเมืองด้วย กระพือไฟ ให้ความขัดแย้งลุกลามไปทั้งประเทศ มีการแบ่งกันว่าภาคนี้ของสีนั้นสีนี้ บางครั้งถึงกับจะแบ่งประเทศไทยกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นอะไรที่ขัดแย้งไม่จบสิ้น
การที่ฝ่ายหนึ่งสร้างวาทกรรมเพื่อเปิดแผลความขัดแย้งกันไม่จบไม่สิ้นนั้น ทั้งหมดทั้งมวลหวังต้องการทำลายทางการเมืองกัน ชิงความได้เปรียบทางการเมืองเป็นหลัก เป็นวิสัยของการเมือง แต่ในสังคมไทย อาจเลยเถิด กลายเป็นความขัดแย้งไม่จบสิ้น จนน่าเขกกบาล
เพราะไม่มีใครยอมใคร
สำหรับคนที่ไม่ได้ร่วมสงครามสีเสื้อ ล้วนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง เป็นกลุ่มที่กระอักกระอ่วน แต่ไม่กล้าเปล่งเสียง เพราะต้องยอมรับว่า แต่ไหน แต่ไร คนกลุ่มนี้ถูกมองข้ามจากสื่อเป็นทุนเดิม
ยกเว้น นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาพูดแทนคนตรงกลาง กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย ที่น่าสนใจว่า “น่าเสียดายที่ 2 พรรคใหญ ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ยังทะเลาะกันเรื่อง “ระบอบทักษิณ” พาการเมืองกลับไปอยู่ในความขัดแย้งเหลือง – แดง ทั้งที่ 2 พรรค ควรจะใช้ความเป็นผู้นำ หาทางต่อสู้กันอย่างสร้างสรรค์ มากกว่ายกเรื่องเก่าออกมาโจมตี สะท้อนว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังพยายามนำสังคมกลับมาอยู่ ณ จุดเดิม ส่วนตัวอยากให้สังคมไทย และพรรคการเมืองร่วมกันตั้งคำถามว่า ถึงเวลาที่จะออกจากความขัดแย้งสีเสื้อได้แล้วหรือยัง เพื่อหาทางพัฒนาการเมืองไทย และประเทศไทย ไปในทางที่ดีกว่าปัจจุบัน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การนำวาทกรรม “ระบอบทักษิณ” มาสร้างความขัดแย้ง อาจถึงขั้นทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก เพราะอย่าลืมว่า หัวหน้า คสช. พูดอยู่เสมอ ถ้าสถานการณ์ไม่สงบก็จะไม่ให้เลือกตั้ง ดังนั้น นักการเมืองควรสงวนถ้อยคำ เลิกตอบโต้กัน คิดเรื่องดีๆไว้นำเสนอต่อผู้ใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งจะดีกว่า”
หากประเทศไทยไม่อาจก้าวข้ามความขัดแย้ง เหลือง-แดง หรือสงครามสร้างวาทกรรม
เชื่อขนมกินได้ว่า ประเทศไทยจะขยับไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก ยิ่งถ้าเกลียดกลัวรัฐประหาร ก็พึงระลึกเลยว่า สงคราม 2 สีนี่เอง จะเป็นตัวเรียกให้ทหารมายึดอำนาจ
แน่นอน หากยังอยู่ในวังวนเดิม ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ก็ไม่อาจก้าวข้าวความขัดแย้งไปได้ เพราะหากผลออกมาว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ฝ่ายมวลชนเสื้อเหลืองก็ออกมาเดินบนถนน หรือกองทัพก็ไม่สบายใจ ในขณะเดียวกันหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล กลุ่มคนเสื้อแดงก็ออกมาเดินบนท้องถนน
ก่อไฟความเกลียดชัง ไม่สิ้นสุด
Ringsideการเมือง